หากพูดถึงการลงทุนแล้ว คงนึกได้หลากหลายรูปแบบ ทั้งการลงทุนในพันธบัตร, การลงทุนในหุ้น หรือการลงทุนในทองคำ แต่ทุกวันนี้ “การลงทุนอสังหาริมทรัพย์” เริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้น จากเดิมทุกคนมักจะเข้าใจว่าเป็นการลงทุนสำหรับคนรวยเท่านั้น ทั้งที่จริงๆแล้วทุกคนสามารถเป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์สำหรับการลงทุนได้ ขึ้นอยู่กับว่า “คุณพร้อมไหม?” ที่จะลงมือหาความรู้และประสบการณ์ กระโดดเข้าสู่สนามการลงทุนแห่งนี้ และแน่นอนว่าเป้าหมายของแต่ละคนย่อมแตกต่างกันออกไป บางคนหวังผลระยะสั้น บางคนหวังผลระยะยาว ทีนี้เรามาดูกันดีกว่าว่า การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์นั้นมีกี่รูปแบบ แล้วตัวคุณเองเหมาะกับรูปแบบใดมากที่สุด
บ้านคุ้มค่า จะพาทุกท่านเริ่มนับ 1 ไปพร้อมๆกัน สำหรับคนที่อยากลงทุนในอสังหาฯ แต่ไม่รู้ว่าจะวางแผนอย่างไรดี หลักการง่ายๆจากการเริ่มต้นถึงประเภทของอสังหาฯแต่ละชนิด ว่ามีรูปแบบใดบ้าง
บ้านเดี่ยว
โดยปกติแล้วอสังหาฯประเภทนี้เหมาะแก่การอยู่อาศัยเป็นหลัก ด้วยขนาดพื้นที่ที่ใหญ่กว่า 50 ตร.วา ทำให้ดูแลรักษายาก และส่วนใหญ่บ้านเดี่ยวมักจะอยู่ชานเมือง (ซึ่งปัจจุบันก็มีราคาสูงมาก)ทำเลไม่น่าดึงดูดเท่าไหร่ หากคิดจะลงทุนบ้านเดี่ยวแล้ว Bankumka ต้องขอบอกว่า ใช้เงินทุนสูงอยู่มิใช่น้อยเลยทีเดียว ทั้งเงินซื้อบ้าน, ค่าซ่อมแซมที่สูงกว่าอสังหาฯ และผลตอบแทนในรูปของค่าเช่าก็ไม่ค่อยสูงนัก เนื่องจากหาผู้เช่ายาก เพราะน้อยคนนักที่ต้องการหาเช่าบ้านเดี่ยว
** หากบ้านเดี่ยวอยู่ในทำเลที่ดี หรือเป็นทำเลที่มีศักยภาพสูงในอนาคต บ้านเดี่ยวจะเป็นอสังหาฯที่อัตราการเติบโตของราคาสูงมาก เนื่องจากมีราคาที่ดินเป็นส่วนสำคัญ แต่ทั้งนี้ก็จะต้องอยู่ในระยะ 5-10 ปีขึ้นไป เหมาะกับคนที่ไม่รีบร้อน ลงทุนในระยะยาวไปเรื่อยๆ
ทาวน์เฮ้าส์
ส่วนใหญ่มักจะเป็นบ้านที่มีขนาด 18-25 ตร.วา นับเป็นอสังหาฯที่เหมาะแก่การปล่อยเช่า ด้วยราคาที่ไม่สูงมาก และขนาดพื้นที่ไม่ได้ใหญ่จนเกินไป ทำให้ดูแลรักษาไม่ยากนัก ปัจจุบันทาวน์เฮ้าส์แถบชานเมืองสามารถหาซื้อได้ในราคา 1-2 ล้านบาท และหากอยู่ในทำเลดีๆ ราคาก็เพิ่มขึ้นสูงไม่แพ้บ้านเดี่ยวเลยทีเดียว
** ทาวน์เฮ้าส์เป็นอสังหาฯที่เหมาะแก่การปล่อยเช่า โดยเฉพาะในแถบชานเมืองที่ยังมีราคาไม่สูงมากนัก เหมาะทั้งแก่การปล่อยเช่าในระยะสั้นและเก็งกำไรระยะยาว
อาคารพาณิชย์
ด้วยลักษณะของอสังหาฯประเภทนี้เหมาะแก่การทำมาค้าขาย มากกว่าไว้สำหรับอยู่อาศัย หากคิดจะซื้อไว้ปล่อยเช่าแล้ว ได้ผลตอบแทนที่ดีพอสมควร แต่ทั้งนี้ในปัจจุบัน อาคารพาณิชย์ทำเลดีๆเริ่มหายากมากขึ้น เพราะส่วนใหญ่มักจะถูกเวนคืนหรือถูกกว้านซื้อกลายเป็นคอนโดมิเนียมไปเสียหมด ราคาอาคารพาณิชย์ที่เหลืออยู่ก็ถีบตัวขึ้นสูงจนน่าตกใจ โดยเฉพาะห้องที่ติดรถไฟฟ้าหรืออยู่ในย่านชุมชน บางห้องแพงกว่าคอนโดมิเนียม Luxury เสียอีก
** อาคารพาณิชย์ที่อยู่ติดถนนใหญ่ สามารถสร้างรายได้ได้อีกทางคือ การติดป้ายโฆษณาไว้บนตึก ซึ่งเป็นอีกหนึ่งช่องทางช่วยสร้างรายได้ให้มากขึ้นนอกจากค่าเช่า
คอนโดมิเนียม
อสังหาฯฮอตฮิตที่ไม่พูดถึงก็คงจะไม่ได้ ด้วยทำเลที่มักจะอยู่ติดถนน ใกล้รถไฟฟ้า และขนาดที่ไม่ใหญ่ ดูแลรักษาง่าย ทำให้คอนโดมิเนียมเป็นอสังหาฯที่เหมาะแก่การปล่อยเช่ามากที่สุด หาผู้เช่าได้ไม่ยาก นอกจากนี้คอนโดมิเนียมมือสองในทำเลดีๆบางแห่งมีราคาเพียง 1-2 ล้านบาท ซึ่งได้ผลตอบแทน 7-8% ต่อปี
**แม้คอนโดมิเนียมจะเป็นอสังหาฯที่น่าลงทุนสำหรับปล่อยเช่ามากที่สุด แต่อย่าลืมว่าคอนโดมิเนียมอาคารหนึ่งๆ มีห้องปล่อยเช่าไม่รู้กี่สิบห้อง ทำให้เกิดการแข่งขันสูง
การลงทุนระยะสั้น คือการลงทุนเพื่อหวังกำไรเล็กๆน้อยๆ เช่น ส่วนต่างจากการจองคอนโดฯแล้วนำใบจองมาขายต่อ ส่วนใหญ่มักจะอยู่ในช่วง 3-5 ปี เหมาะสำหรับผู้ที่มีเงินทุนไม่มากนัก ไม่ต้องการความเสี่ยงสูง
การลงทุนระยะยาว คือการลงทุนเพื่อหวังผลตอบแทนที่เป็นกอบเป็นกำ ส่วนใหญ่มักจะลงทุนในระยะ 5-10 ปีขึ้นไป เหมาะสำหรับผู้มั่นใจและเข้าใจในอสังหาฯที่จะลงทุน ไม่หวั่นไหวไปกับสถานการณ์รอบข้าง พร้อมที่จะอดทนรอมูลค่าที่เพิ่มขึ้นของอสังหาฯในอนาคตแล้วก็ขายออกไปเพื่อทำกำไรจากส่วนต่างของราคา
เพราะเรารู้ว่า "บ้าน" เป็นสิ่งสำคัญ เลือกอสังหาฯ
เลือก..บ้านคุ้มค่า