ข้อมูลที่นำเสนอมาจากการสำรวจภาคสนามของศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์เมื่อเมื่อกลางปี 2559 โดยเป็นข้อมูลของโครงการที่อยู่ระหว่างการขาย และนับเฉพาะโครงการที่มีหน่วยเหลือขายไม่ต่ำกว่า 6 หน่วย
โครงการบ้านจัดสรรขนาดเล็กซึ่งมีจำนวนหน่วยในผังไม่เกิน 100 หน่วยมี 367 โครงการ ส่วนโครงการขนาดใหญ่ที่มีจำนวนหน่วยในผังเกิน 250 หน่วยมี 298 โครงการ
จากหน่วยในผังโครงการทั้งหมด พบว่าร้อยละ 46 เป็นทาวน์เฮ้าส์ ร้อยละ 37 เป็นบ้านเดี่ยว ร้อยละ 11 เป็นบ้านแฝด ที่เหลือเป็นอาคารพาณิชย์และที่ดินเปล่า
แยกตามระดับราคาของหน่วยบ้านจัดสรรในผังโครงการ พบว่าร้อยละ 15 อยู่ในช่วงราคาไม่เกิน 2 ล้านบาท ร้อยละ 26 อยู่ในช่วงราคา 2.01-3 ล้านบาท ร้อยละ 35 อยู่ในช่วงราคา 3.01-5 ล้านบาท และร้อยละ 24 อยู่ในช่วงราคาเกินกว่า 5 ล้านบาท
จากหน่วยในผังโครงการทั้งหมดประมาณ 203,000 หน่วยดังกล่าว แยกตามสถานะของการก่อสร้าง พบว่าเป็นหน่วยที่สร้างเสร็จแล้วประมาณ 131,250 หน่วย คิดเป็นร้อยละ 65 อยู่ระหว่างการก่อสร้างประมาณ 33,800 หน่วย คิดเป็นร้อยละ 17 และยังไม่ได้เริ่มสร้างประมาณ 37,950 หน่วย คิดเป็นร้อยละ 18 เช่นกัน
จากหน่วยในผังของโครงการทั้งหมด 1,077 โครงการ โดยแยกตามจังหวัดที่ตั้งดังนี้
- กรุงเทพฯ มี 429 โครงการ รวมประมาณ 74,800 หน่วย เหลือขายประมาณ 21,050 หน่วย
- นนทบุรี มี 214 โครงการ รวมประมาณ 40,600 หน่วย เหลือขายประมาณ 20,300 หน่วย
- ปทุมธานี มี 164 โครงการ รวมประมาณ 36,800 หน่วย เหลือขายประมาณ 12,600 หน่วย
- สมุทรปราการ มี 146 โครงการ รวมประมาณ 32,300 หน่วย เหลือขายประมาณ 15,250 หน่วย
- สมุทรสาคร มี 61 โครงการ รวมประมาณ 12,200 หน่วย เหลือขายประมาณ 5,800 หน่วย
- นครปฐม มี 63 โครงการ รวมประมาณ 6,300 หน่วย เหลือขายประมาณ 2,900 หน่วย
พื้นที่ซึ่งมีหน่วยบ้านจัดสรรในผังโครงการมากที่สุด ได้แก่ อำเภอบางพลี อำเภอลำลูกกา เขตคลองสามวา อำเภอบางบัวทอง และอำเภอเมืองสมุทรสาคร ส่วนพื้นที่ซึ่งมีหน่วยบ้านจัดสรรเหลือขายมากที่สุด ได้แก่ อำเภอบางบัวทอง อำเภอบางพลี อำเภอเมืองสมุทรสาคร อำเภอบางใหญ่ และอำเภอลำลูกกา
เขตหรืออำเภอที่มีหน่วยบ้านเดี่ยวเหลือขายมากที่สุด ได้แก่ อำเภอบางบัวทอง อำเภอบางพลี อำเภอลำลูกกา อำเภอบางกรวย และอำเภอธัญบุรี
ส่วนเขตหรืออำเภอที่มีหน่วยทาวน์เฮ้าส์เหลือขายมากที่สุด ได้แก่ อำเภอบางบัวทอง อำเภอบางพลี อำเภออำเภอบางใหญ่ เมืองสมุทรสาคร และอำเภอสมุทรปราการ
มีอาคารชุดขนาดความสูงไม่เกิน 8 ชั้น 2,476 อาคาร และขนาดความสูง 30 ชั้นขึ้นไป 624 อาคาร ร้อยละ 32 ของหน่วยห้องชุดทั้งหมดมีขนาดห้องไม่เกิน 25 ตารางเมตร และร้อยละ 36 อยู่ระหว่าง 26-30 ตารางเมตร ส่วนห้องชุดที่มีขนาดห้องมากกว่า 60 ตารางเมตรมีร้อยละ 5 ของหน่วยห้องชุดทั้งหมด
จากหน่วยในผังโครงการทั้งหมด พบว่าร้อยละ 19 เป็นห้องแบบสตูดิโอ อีกร้อยละ 68 เป็นแบบหนึ่งห้องนอน และร้อยละ 12 เป็นแบบสองห้องนอน ที่เหลือเป็นแบบสามห้องนอนขึ้นไป
แยกตามระดับราคาของหน่วยในผังโครงการ พบว่าร้อยละ 42 เป็นหน่วยห้องชุดในช่วงราคาไม่เกิน 2 ล้านบาท อีกร้อยละ 28 อยู่ในช่วงราคา 2.01-3 ล้านบาท และร้อยละ 16 ในช่วงราคา 3.01-5 ล้านบาท ที่เหลืออยู่ในช่วงราคาเกินกว่า 5 ล้านบาท
จากหน่วยในผังโครงการทั้งหมดประมาณ 231,400 หน่วยดังกล่าว แยกตามสถานะของการก่อสร้าง พบว่าเป็นหน่วยที่สร้างเสร็จแล้วประมาณ 90,100 หน่วย คิดเป็นร้อยละ 39 อยู่ระหว่างการก่อสร้างประมาณ 119,100 หน่วย คิดเป็นร้อยละ 51 และยังไม่ได้เริ่มสร้างประมาณ 22,200 หน่วย คิดเป็นร้อยละ 10
จากหน่วยในผังของโครงการทั้งหมด 442 โครงการ โดยแยกตามจังหวัดที่ตั้งดังนี้
- กรุงเทพฯ มี 323 โครงการ รวมประมาณ 156,100 หน่วย เหลือขายประมาณ 30,300 หน่วย
- นนทบุรี มี 58 โครงการ รวมประมาณ 37,300 หน่วย เหลือขายประมาณ 12,600 หน่วย
- ปทุมธานี มี 16 โครงการ รวมประมาณ 13,400 หน่วย เหลือขายประมาณ 6,500 หน่วย
- สมุทรปราการ มี 31 โครงการ รวมประมาณ 19,900 หน่วย เหลือขายประมาณ 8,400 หน่วย
- สมุทรสาคร มี 3 โครงการ รวมประมาณ 1,300 หน่วย เหลือขายประมาณ 700 หน่วย
- นครปฐม มี 11 โครงการ รวมประมาณ 3,400 หน่วย เหลือขายประมาณ 1,200 หน่วย
เขตหรืออำเภอที่มีหน่วยห้องชุดในผังโครงการมากที่สุด ได้แก่ อำเภอเมืองนนทบุรี อำเภอเมืองสมุทรปราการ เขตบางซื่อ เขตบางนา และอำเภอธัญบุรี
ส่วนเขตหรืออำเภอที่มีหน่วยห้องชุดเหลือขายมากที่สุด ได้แก่ อำเภอเมืองนนทบุรี อำเภอเมืองสมุทรปราการ อำเภอธัญบุรี เขตจตุจักร และเขตบางซื่อ
โดยสรุป ผู้ประกอบการยังมีการเปิดขายโครงการที่อยู่อาศัยทั้งประเภทบ้านจัดสรรและอาคารชุดในพื้นที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑลอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีจำนวนหน่วยในผังโครงการเพิ่มขึ้น หน่วยบ้านจัดสรรใหม่ราคาต่ำกว่า 1 ล้านบาทหาได้ยาก แต่ห้องชุดใหม่ราคาต่ำกว่า 1 ล้านบาทยังหาซื้อได้ในพื้นที่ปทุมธานี ส่วนใหญ่อยู่ในอำเภอธัญบุรี
มีหน่วยบ้านจัดสรรเปิดขายมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในสมุทรปราการ โดยมีจำนวนโครงการเพิ่มขึ้น จาก 138 โครงการเป็น 146 โครงการ และจำนวนหน่วยเพิ่มขึ้น จาก 30,400 หน่วย เป็น 32,300 หน่วย (เมื่อเทียบกับครึ่งหลังปี 2558)
มีหน่วยห้องชุดเปิดขายมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในนนทบุรี โดยมีจำนวนโครงการเพิ่มขึ้น จาก 49 โครงการเป็น 58 โครงการ และจำนวนหน่วยเพิ่มขึ้น จาก 32,300 หน่วย เป็น 37,300 หน่วย (เมื่อเทียบกับครึ่งหลังปี 2558)
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโทร 0-2645-9675-6 ฝ่ายประชาสัมพันธ์และบริการข้อมูล ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์
ที่มา : กระทรวงการคลัง
ผู้นำเสนอ : กลุ่มสารนิเทศการคลัง สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง