นายปลิว ตรีวิศวเวทย์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) หรือ CK เปิดเผยว่าผลการดำเนินงานของ บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) ปี 2558 เป็นไปอย่างแข็งแกร่ง และการปรับโครงสร้างของบริษัทในกลุ่มคือ บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM แล้วเสร็จไปด้วยดี โดยการปรับโครงสร้างนี้ถือเป็นประโยชน์กับทุกๆฝ่าย เสริมความแข็งแกร่งทางด้านการเงิน เพิ่มความคล่องตัวในการดำเนินงานให้กับ BEM และยังเปิดโอกาสการลงทุนในโครงการใหม่ๆเพิ่มขึ้นอีกด้วย นอกจากนี้ช.การช่างได้เตรียมความพร้อมในเรื่องของบุคลากรและทีมงาน โดยมีการเสริมทัพทีมผู้บริหารระดับสูง เตรียมความพร้อมทางด้านการเงิน และพันธมิตร เพื่อรองรับงานด้านโครงสร้างพื้นฐานทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเชื่อมั่นว่าประสบการณ์กว่า 43 ปี องค์ความรู้ เทคนิคทางด้านวิศวกรรมขั้นสูง และขีดความสามารถการทำงานของทีมงาน ช.การช่างจะผลักดันให้เกิดผลงานมีคุณภาพและสำเร็จตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
บริษัทฯ จะเข้าร่วมประมูลโครงการของภาครัฐที่จะทยอยออกมา เช่น โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม สายสีชมพู สายสีเหลือง โครงการรถไฟทางคู่ โครงการมอเตอร์เวย์ โครงการสุวรรณภูมิเฟส 2 และมั่นใจว่าจะได้ส่วนแบ่งงานก่อสร้าง 20-25% ของงานทั้งหมด และพร้อมที่จะเข้าร่วมลงทุนดำเนินการในโครงการของภาครัฐแบบ PPP ทั้งโครงการทางด่วน ทางหลวงระหว่างเมือง รถไฟฟ้า โรงไฟฟ้า และน้ำประปา โดยมีบริษัทในกลุ่มคือ BEM TTW และ CKP พร้อมร่วมลงทุนและพัฒนาโครงการการ ส่วนงานต่างประเทศมุ่งเป้าไปที่ลาวและเมียนมาร์ ซึ่งเป็น 2 ประเทศเป้าหมายสำคัญที่มีการเจริญเติบโตของธุรกิจการลงทุนในระบบสาธารณูปโภค พื้นฐานเป็นอย่างมาก นายปลิวกล่าว
นางสาวสุภามาส ตรีวิศวเวทย์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) หรือ CK เผยว่าผลการดำเนินงานงวดปี 2558 บริษัทฯ ยังคงรักษาระดับ ความแข็งแกร่งในการสร้างรายได้และกำไรจากการดำเนินงานได้ในระดับดี บริษัทมีรายได้รวม 38,027 ล้านบาท กำไรสุทธิ 2,260 ล้านบาท โดยเป็นรายได้ก่อสร้าง 34,815 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มจากปี 2557 คิดเป็น 5.62% เนื่องจากโครงการต่างๆของบริษัทมีความคืบหน้าดี รวมทั้งมีโครงการใหม่ที่ได้มีการลงนามในปี 2558 อีกด้วย บริษัทมีกำไรขั้นต้นอยู่ที่ 8.22% ซึ่งเป็นอัตราที่น่าพอใจ ด้วยผลประกอบการปี 2558 ที่แข็งแกร่งนี้ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นในวันที่ 29 เมษายน 2559 ได้มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลเท่ากับอัตราหุ้นละ 0.40 บาท ซึ่งเมื่อรวมกับเงินปันผลระหว่างกาลหุ้นละ 0.25 บาท ทำให้ปีนี้บริษัทจ่ายเงินปันผลเท่ากับหุ้นละ 0.65 บาท
สำหรับในปี 2559 ช.การช่าง วางเป้าหมายรายได้ก่อสร้างขั้นต่ำประมาณ 35,000-38,000 ล้านบาท โดยปัจจุบันบริษัทฯ มีโครงการในมือที่รอรับรู้รายได้รวม 83,551 ล้านบาท ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา บริษัทได้ลงนามสัญญาโครงการมอเตอร์เวย์ พัทยา-มาบตาพุด สัญญา 5 มูลค่า 727 ล้านบาท และมีงานที่รอลงนามคือ โครงการสถานีไฟฟ้าย่อยนาบง ที่ สปป. ลาว มูลค่า 2,200 ล้านบาท ส่วนงานโครงการไฟฟ้าพลังน้ำไซยะบุรี ณ สปป.ลาว บริษัทได้งานก่อสร้างเพิ่มเติมอีกมูลค่า 19,000 ล้านบาท จากบริษัท ไซยะบุรี พาวเวอร์ จำกัด ซึ่งคาดว่าจะลงนามได้ภายในปีนี้ ปัจจุบันการก่อสร้างโครงการไซยะบุรีมีความคืบหน้าไปกว่า 60 % ซึ่งเป็นไปตามแผนที่วางไว้
นอกจากนั้น ในปีนี้มั่นใจว่าภาครัฐจะผลักดันโครงการออกมา และทยอยเปิดประมูล เช่น โครงการรถไฟฟ้าสายต่างๆ สุวรรณภูมิ มอเตอร์เวย์ รถไฟทางคู่ รวมมูลค่าเกือบ 500,000 ล้านบาท และ ช.การช่าง มั่นใจ มีความพร้อมและศักยภาพที่จะเข้าร่วมประมูลทุกโครงการ