CCP มั่นใจอุตสาหกรรมคอนกรีตปี 2560 ฟื้นตัวดี รัฐขับเคลื่อนโปรเจ็กต์ตามแผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่ง รอความมั่นใจภาคเอกชนลงทุนเสริมช่วงครึ่งปีหลัง เผยปี 2560 ตั้งเป้ารายได้ 2,550 ล้านบาท เดินหน้าลุยงานภาครัฐ หลังทุ่มงบกว่า 200 ล้าน ในปีที่ผ่านมา พร้อมรับสิทธิทางภาษีจากการลงทุน เพิ่มประสิทธิภาพการผลิตขยายไลน์ออกผลิตภัณฑ์ใหม่
นายอาทิตย์ ทีปกรสุขเกษม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ผลิตภัณฑ์คอนกรีตชลบุรี จำกัด (มหาชน) หรือ CCP เปิดเผยว่า อุตสาหกรรมรับเหมาก่อสร้างปีนี้มีทิศทางดีขึ้น จากการที่ภาครัฐมีแผนกระตุ้นเศรษฐกิจและขับเคลื่อนโครงการเมกะโปรเจ็กต์ตามแผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่ง โดยจะมีโครงการต่างๆทยอยออกมาต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี อาทิ โครงการก่อสร้างถนน รถไฟฟ้า รถไฟทางคู่ และมอเตอร์เวย์ ฯลฯ
ทั้งนี้หากการก่อสร้างภาครัฐมีความต่อเนื่องและเป็นไปตามแผน จะทำให้ภาคเอกชนมีการลงทุนตาม ซึ่งจะส่งผลทางบวกต่อทุกอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง โดยคาดว่าจะเห็นการลงทุนของภาคเอกชนทยอยมากขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง
"อุตสาหกรรมก่อสร้างถือว่าผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว ปีนี้น่าจะเข้าสู่ภาวะที่ดีขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้ความต้องการใช้คอนกรีตตลอดจนวัสดุก่อสร้างประเภทต่างๆทยอยปรับตัวสูงขึ้น ในช่วงที่ผ่านมาบริษัทมีการลงทุนกว่า 200 ล้าน เพื่อปรับปรุงกระบวนการผลิตในโรงงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น สามารถผลิตคอนกรีต Precast ได้หลากหลายรูปแบบ เพิ่มศักยภาพรองรับการใช้งานก่อสร้างด้านโครงสร้างพื้นฐานและงานก่อสร้างทั่วไป และมีกำลังการผลิตที่เพียงพอรองรับความต้องการใช้งานที่เพิ่มสูงขึ้น อีกทั้งการลงทุนดังกล่าว ยังสามารถรับสิทธิทางภาษีจากการลงทุน โดยหักรายจ่ายทางภาษีเพิ่มได้ 1 เท่า ซึ่งคาดว่าจะส่งผลให้อัตรากำไรของบริษัทปรับตัวดีขึ้น" นายอาทิตย์ กล่าว
สำหรับเป้าหมายการเติบโตปี 2560 บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้ไว้ที่ประมาณ 2,550 ล้านบาท ซึ่งการเติบโตจะเป็นไปตามการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐ คาดว่าสัดส่วนรายได้ของบริษัทปีนี้จะมาจากงานภาครัฐ80% และงานภาคเอกชน 20%
โดยในส่วนของงานภาคเอกชนบริษัทจะมุ่งเน้นการเปิดตลาดใหม่จาก B2B เป็น B2C มากขึ้น เพื่อขยายฐานลูกค้าและกระจายความเสี่ยง รวมทั้งขยายช่องทางการจำหน่ายผลิตภัณฑ์คอนกรีตสำเร็จรูป พร้อมออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆรองรับความต้องการกลุ่มลูกค้า ซึ่งจะช่วยผลักดันให้เกิดการรับรู้รายได้อย่างสม่ำเสมอ
ปัจจุบันบริษัทมี Backlog ประมาณ 2,500 ล้านบาท ทยอยรับรู้รายได้ในระยะเวลา 1 ปี 6 เดือน แบ่งเป็นการรับรู้รายได้ภายในปีนี้ 60-65% โดยบริษัทจะทยอยหางานเข้ามาเพิ่มอีกในอนาคต เพื่อรักษาระดับมูลค่างานในมือ (Backlog) ไว้ไม่ต่ำกว่า 2,000 ล้านบาท ขณะที่งบลงทุนปี 2560 จะเน้นการลงทุนในการปรับปรุงเครื่องจักรเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ออกสินค้าใหม่ สามารถผลิตผลิตภัณฑ์ได้หลากหลายรูปแบบมากขึ้น เพื่อรองรับออเดอร์และความต้องการใช้งานที่หลากหลายในอนาคต