นายพีระยุทธ สิงห์พัฒนากุล ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) กล่าวว่า ภายหลังจากที่ รฟม.ได้ลงพื้นที่บริเวณชุมชนแม่เนี้ยว 3 ถนนประชาสงเคราะห์ ซึ่งเป็นแนวเส้นทางที่รถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตก ช่วงตลิ่งชัน-มีนบุรี ระยะทาง 16.4 กม. วงเงินลงทุน 85,316 ล้านบาท เป็นการลงไปทำความเข้าใจกับประชาชนที่เรียกร้องให้ปรับแนวทาง ซึ่งที่ผ่านมาคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (คจร.) ได้ยืนยันแนวเส้นทาง โดยให้ใช้เส้นทางถนนประชาสงเคราะห์เพื่อไปบรรจบกับสายสีส้ม ตะวันออกที่สถานีศูนย์วัฒนธรรม เพียงแต่ว่า รฟม.ต้องลงไปทำความเข้าใจจริงๆ เพื่อเจรจารับฟังความคิดเห็นว่าประชาชนมีข้อกังวลที่อยากให้ รฟม.ดำเนินการอื่นใด
ในขณะเดียวกันคนที่ไม่ได้รับผลกระทบจะต้องเข้าใจด้วย ในบริเวณชุมชนแม่เนี้ยวมีผู้ได้รับผลกระทบเพียง 184 รายเท่านั้น ดังนั้นจะต้องแยกระหว่างผู้ที่ได้รับผลกระทบกับไม่ได้รับผลกระทบ เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ตรงกัน ไม่เช่นนั้นจะรวมกันหมดและทำให้เกิดความแตกตื่น อย่างไรก็ตาม สำหรับการเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบ รฟม.จะต้องดำเนินการตามกฎหมาย แต่หากประชาชนมีความต้องการก็สามารถเสนอความคิดเห็นและยื่นเรื่องได้ ซึ่งหาก รฟม.พิจารณาแล้วพบว่ามีความเหมาะสมก็จะทำเรื่องเสนอบอร์ด รฟม.
นายพีระยุทธ กล่าวต่อว่า สำหรับการเสนอขออนุมัติโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตกนั้น คาดว่าจะเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติก่อสร้างโครงการได้ประมาณปี 59 เพราะขณะนี้โครงการยังต้องศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมเพิ่มเติม เช่น บริเวณเกาะกรุงรัตนโกสินทร์ ส่วนการเดินรถจะเป็นการร่วมทุนกับเอกชน (PPP) ตลอด เส้นทาง ทั้งสายสีส้ม ส่วนตะวันตก (ตลิ่งชัน-ศูนย์วัฒนธรรมฯ) และสายสีส้มส่วนตะวันออก ศูนย์วัฒนธรรมฯ-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการจ้างที่ปรึกษาดำเนินการศึกษารูปแบบการลงเดินในระบบเดินรถของ สายสีส้มตลอดเส้นทาง
ที่มา : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ