LPN พลิกกลยุทธ์โหมลงทุนอสังหาฯแนวราบ 1,200 ล้านบาท

1,330 Views เผยแพร่ 1 ก.ค. 58
LPN พลิกกลยุทธ์โหมลงทุนอสังหาฯแนวราบ 1,200 ล้านบาท

หลังจากกลุ่ม บริษัท แอล.พี.เอ็น. ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ LPN ได้พยายามต่อจิ๊กซอว์เชื่อมโยงฐานลูกค้าคอนโดมิเนียมมีอยู่กว่า 1 แสนครอบครัวมาสู่ตลาดแนวราบในหลายปีที่ผ่านมา ในนามบริษัท พรสันติ จำกัด เพื่อกระจายความเสี่ยง เพราะการทำธุรกิจขาเดียวที่พึ่งรายได้จากคอนโดมิเนียมเป็นหลักอาจมีความเสี่ยงมากเกินไป โดยเฉพาะในภาวะตลาดคอนโดมิเนียมปัจจุบันเจอหลากปัญหารุมเร้า ทั้งเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ตลาดหลายพื้นที่เข้าสู่ภาวะอิ่มตัว

จรัญ เกษร กรรมการผู้จัดการ บริษัท พรสันติ จำกัด กล่าวกับกรุงเทพธุรกิจว่า พรสันติ วางนโยบายเดินเกมบุกตลาดบ้านแนวราบอย่างจริงจัง โดยตั้งเป้ารายได้จาก ที่อยู่อาศัยแนวราบ ทั้งบ้านเดี่ยว และทาวน์เฮ้าส์ประมาณ 10% ของพอร์ตรายได้ทั้งหมดของ LPN ภายใน 3 ปีนับจากนี้ และรายได้ 3,000 ล้านบาทใน 5 ปี โดยในปีนี้ คาดจะมีรายได้ 600 ล้านบาท ยอดขาย 1,500 ล้านบาท ส่วนในปี2557 มีรายได้ 600 ล้านบาท ยอดขาย 1,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ปัจจุบัน LPN มีรายได้รวม 2 หมื่นล้าน ภายหลังจากพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยแนวราบมาแล้วกว่า 3 ปี และเริ่มเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น บริษัทจึงได้แยกแบรนด์สินค้าให้มีความแตกต่างไปจากคอนโดมิเนียม ได้เพิ่มชื่อแบรนด์ จาก "ลุมพินี" เป็น "บ้านลุมพินี" โดยแบ่งเป็นบ้านระดับราคาประมาณ 3 ล้านบาท ใช้แบรนด์ "บ้านลุมพินี ทาวน์ วิลล์" ระดับราคาประมาณ 5 ล้านบาท แบรนด์ "บ้านลุมพินี ทาวน์ เพลส" และ บ้านระดับบนแบรนด์ "บ้านลุมพินี ทาวน์ เรสซิเดนซ์"

บริษัทฯเชื่อว่าแนวโน้มตลาดแนวราบ มีการเติบโตสูงต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยสำคัญจากแผนการลงทุนขยายโครงข่ายคมนาคม โดยเฉพาะรถไฟฟ้าส่วนต่อขยาย ซึ่งขยายแนวออกไปนอกเมืองมากขึ้น มีผลทำให้การขยายตัวของเมืองออกไปรอบนอกมากขึ้น  มีผลต่อการเพิ่มปริมาณที่อยู่อาศัยประเภททาวน์เฮ้าส์ และบ้านเดี่ยวมากยิ่งขึ้น หลังตลาดแนวราบได้ถูกตลาดคอนโดมิเนียมแซงหน้าไปเมื่อ 5-6 ปีที่ผ่านมา

"เราต้องการเพิ่มสัดส่วนฐานลูกค้าจากโครงการแนวราบ เพื่อกระจายความเสี่ยงจากการลงทุนที่มีรายได้จากการขายโครงการคอนโด สูงถึง 96-97% ยิ่งในภาวะที่กำลังซื้อลดลงตามสถาวะเศรษฐกิจชะลอตัว  อีกทั้งสินค้าคงค้างของแต่ละบริษัทมีอยู่มากพอสมควร ขณะที่การพัฒนาแนวราบเสี่ยงน้อยกว่า ขายได้เท่าไหร่ก็สร้างเท่านั้น ทดสอบดีมานด์ไปได้เรื่อยๆ สามารถรับรู้รายได้เร็ว แต่คอนโดต้องสร้างให้เสร็จถึงจะได้เงิน"

 

ดึงพันธิมตรลุยคอมมูนิตี้มอลล์

แต่อย่างไรก็ดีบริษัทจะเน้นการขยายธุรกิจจากความชำนาญที่มีอยู่ เบื้องต้นจะเป็นที่พักอาศัยเป็นหลักบวกกับค้าปลีกที่เชื่อมต่อการพักอาศัย เช่น คอมมูนิตี้มอลล์ ซึ่งตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าในพื้นที่เป็นหลัก อย่างไรก็ตามเรื่องของค้าปลีกเป็นสิ่งที่บริษัทไม่ถนัดจึงดึงผู้เชี่ยวชาญเข้ามาช่วย

จรัญ กล่าวว่า กลยุทธ์การลงทุนจะใช้วิธีกระจายทำเล ขนาดโครงการไม่ใหญ่มาก เนื้อที่ 20-30 ไร่ จำนวน 200 ยูนิต ต่อโครงการ มูลค่าโครงการเฉลี่ย 500 ล้านบาท เน้นกลุ่มตลาดบ้านราคา 3-5 ล้านบาท ซึ่งเป็นตลาดขนาดใหญ่ คิดเป็นสัดส่วน 60-70% ของตลาดรวมทั้งหมด และเพื่อให้การเติบโตเป็นไปตามเป้าหมาย บริษัทจะเพิ่มการเปิดตัวโครงการแนวราบมากขึ้น เฉลี่ยลงทุนปีละ 5 โครงการ จากปีที่ผ่านมาเปิด 2 โครงการ มูลค่า 1,000 ล้านบาท

ปีนี้เป็นปีแรกเปิดทั้งหมด 5 โครงการ มูลค่า 2,000-2,500 ล้านบาท ได้แก่  บ้านลุมพินี ทาวน์ เรสซิเดนซ์ บางนาศรีนครินทร์ เป็นโครงการทาวน์เฮ้าส์ 3 ชั้น ราคาเริ่มต้นที่ 7.3 ล้านบาท และโฮมออฟฟิศ 4 ชั้น จำนวน 27 ยูนิต มูลค่าโครงการ 200  ล้านบาท โครงการบ้านลุมพินี สวนหลวง ร.9 เป็นโครงการบ้านเดี่ยว 3 ชั้น จำนวน 104 ยูนิต ขนาดเนื้อที่ตั้งแต่ 55-70 ตร.ว. ราคาเริ่มต้น 8-15 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 1,200 ล้านบาท และโครงการบ้านลุมพินี ทาวน์ วิลล์ พระราม 2 สุขสวัสดิ์ เป็นทาวน์เฮ้าส์ 2 ชั้น เนื้อที่ 14 ไร่ จำนวน 170 ยูนิต มูลค่า 400 ล้านบาท และอีก 2 โครงการอยู่ระหว่างการซื้อที่ดิน มองในทำเลสุขาภิบาล 5 เพิ่มเติม

 

ชูจุดแข็ง "ลุมพินี" ชุมชนน่าอยู่

จรัญ กล่าวว่า สำหรับหัวใจหลักในการแข่งขันนั้น แม้พรสันติยังเป็นน้องใหม่แต่ก็มีแบรนด์ซึ่งเป็นที่รู้จักลูกค้ารับรู้ถึงความเป็น "ลุมพินี" ซึ่งนำมาต่อยอดได้ และตลอด 26 ปีที่ผ่านมาของการทำธุรกิจ บริษัทมีลูกค้า 1 แสนครอบครัว และสิ่งที่ลูกค้านึกถึงคือ "ชุมชนน่าอยู่" แต่ชุมชนน่าอยู่โครงการ แนวราบกับคอนโด ไม่เหมือนกัน ความ แตกต่างคือแนวราบ มีพื้นที่ทับซ้อนหรือพื้นที่ส่วนกลางที่ใช้ร่วมกันน้อยกว่า การใช้ชีวิตแบบมีส่วนร่วมจึงน้อยกว่า แต่เชื่อว่า คนที่ซื้อบ้านจัดสรรต้องการคุณภาพชีวิต ที่ดี คุณภาพสังคมสูง ๆ

"เราต้องทำให้เกิด Together and Share หรือการอยู่ร่วมกันและแบ่งปัน โดยการประยุกต์กลยุทธ์ชุมชมน่าอยู่ลงไปในแนวราบ เพื่อสร้างการรับรู้ความเป็นบ้านลุมพินีบ้านน่าอยู่ เราเน้นพัฒนาโครงการภายใต้แนวคิด โปรดักท์ แวลู คุณภาพ ราคาจับต้องได้ ภายใต้ทำเลที่ตอบโจทย์"

จรัญ กล่าวว่า ในช่วง 10 ปีหลังที่ผ่านมา บริษัทมีสัดส่วนลูกค้าที่มาจากบอกต่อ เพิ่มจาก 27% เป็น 50% สะท้อนว่าลูกค้าเชื่อมั่นในแบรนด์ลุมพินี จึงกล้าแนะนำให้คนอื่นมาซื้อ สำหรับโครงการแนวราบเราตั้งเป้าจะทำให้ได้แบบนั้นเหมือนกัน

"อยากสร้างการรับรู้แบบเดียวกับร้านเซเว่นอีเลฟเว่น ไม่ว่าจะเป็นคนละโครงการต่างทำเล ก็มั่นใจว่าจะได้สินค้าและบริการเป็นมาตรฐานเดียวกันทั้งหมด"

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ

ลงประกาศขาย-เช่าฟรี คำนวณการขอสินเชื่อ

คุ้มค่าน่าอ่าน

ประกาศซื้อ-ขายมาใหม่

SHARE

Share Tweet Share
BanKumKa.Com เป็นเว็บไซต์ศูนย์กลางสำหรับซื้อ-ขายอสังหาริมทรัพย์ของประเทศไทย ด้วยข้อมูลที่พร้อมทั้งคอนโดมิเนียม บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ อาคารพาณิชย์ และที่ดิน ไม่ว่าจะเป็นโครงการใหม่หรือบ้านมือสอง อีกทั้งบทความและข่าวสารที่เกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ เพื่อให้คุณได้คัดสรรทรัพย์ที่ดีที่สุดได้ในเว็บไซต์ BanKumKa.com ที่เดียว
เว็บไซต์ BanKumKa.Com มีการเก็บ Cookies ซึ่งเป็นการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลและช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานเว็บไซต์ สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่หน้า นโยบายความเป็นส่วนตัว ยอมรับ