นายพัชร สมะลาภา รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภาวะเศรษฐกิจที่ยังชะลอตัวส่งผลให้ผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลางและย่อม หรือเอสเอ็มอี มีการเบิกใช้สินเชื่อมากขึ้น จากก่อนหน้านี้ธนาคารได้อนุมัติวงเงินสินเชื่อผู้ประกอบการยังไม่เบิกใช้ แต่เมื่อธุรกิจเริ่มตึงตัว จึงมีการเบิกสินเชื่อออกมาใช้จ่าย โดยตั้งแต่ต้นมีสัดส่วนเพิ่มขึ้น 2% หรือจาช่วงปกติวงเงินสินเชื่อที่อนุมัติ ผู้ประกอบการจะมีการเบิกใช้สินเชื่อในสัดส่วน 55% แต่ปัจจุบันได้ขยับขึ้นมาเป็น 57%
สำหรับการปล่อยสินเชื่อให้กับผู้ประกอบการธุรกิจอสังหาริมทรัพย์การอนุมัติสิน เชื่อธนาคารได้มีการพิจารณาอย่างรอบคอบ เนื่องจากปริมาณคอนโดมิเนียมล้นตลาด ทำให้ผู้ประกอบการชะลอกการก่อสร้าง เช่น คอนโดมิเนียมใน จ.เชียงใหม่ จ.อุดรธานี และ จ.นครราชสีมา อย่างไรก็ตาม ธุรกิจใจต่างจังหวัดที่ยังเติบโตได้ดี ได้แก่ การค้าชายแดนรับเหมาก่อสร้างและวัสดุก่อสร้าง เป็นต้น
นายพัชร กล่าวอีกว่า ใน่สวนของคุณภาพสินเชื่อเอสเอ็มอี ต้องยอมรับว่าไม่คอยดี เนื่องจากมีหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) กระจายอยู่ในทุกกลุ่มธุรกิจ แต่ยังเป็นจำนวนที่ไม่มาก และยังสามารถบริหารจัดการแก้ไขปัญหาหนี้เอ็นพีแอลได้ โดยช่วงที่ผ่านมาธนาคารได้เข้าไป ช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับความเดือดร้อนจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัวเป็นรายกรณี เช่น ธุรกิจท่องเที่ยว
"ปีนี้การปล่อยสินเชื่อธนาคารยังไม่เน้นปล่อยสินเชื่อรายใหม่ แต่จะเน้นลูกค้ารายเก่า เนื่องจากที่ผ่านมาพอร์ตสินเชื่อเติบโตเกินเป้าหมายที่วางไว้และปัจจุบัน พอร์ตสินเชื่อคงค้างอยู่ที่ 540,000 ล้านบาท โดยปีนี้สินเชื่อจะเติบโตที่ 8-9%"
ที่มา : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ