นายปรเมธี วิมลศิริ เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ (กนพ.) ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน มีมติเห็นชอบการกำหนดแปลงที่ดินของรัฐที่มีความเหมาะสมสำหรับให้เอกชนและ หน่วยงานภาครัฐใช้ประโยชน์ในที่ดินสำหรับเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ ระยะที่ 2 ในพื้นที่จังหวัดนครพนม เชียงราย กาญจนบุรีรวมพื้นที่ 12,000 ไร่
โดยในจำนวนนี้จะมีพื้นที่ที่ต้องใช้ ม.44 ประกาศถอนสภาพพื้นที่สาธารณประโยชน์ใน จ.นครพนม และเชียงรายรวม 3,912 ไร่ และ จ.นราธิวาส มีพื้นที่ของเอกชนที่มีความเหมาะสมที่จะนำมาใช้ตั้งนิคมอุตสาหกรรมได้จำนวน 2,277 ไร่ โดยมอบให้การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ไปเจรจาขอซื้อที่ดินจากภาคเอกชน
ขณะเดียวกันที่ประชุมยังเห็นชอบการปรับลดค่าธรรมเนียมการจัดให้เช่าที่ราชพัสดุตลอดระยะเวลา 50 ปีหรือค่าแรกเข้า สำหรับเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษในระยะแรก ตามที่ภาคเอกชนร้องขอ โดยลดลงให้ 50% เหลือไร่ละ 160,000-300,000 บาท และให้สามารถชำระครั้งเดียวหรือผ่อนส่งได้โดย 5 ปีแรกไม่ต้องผ่อนส่ง แต่ให้ ผ่อนส่งในปีที่ 6-10 โดยคิดอัตราดอกเบี้ยในราคาตลาด ซึ่งเป็น ข้อสรุปที่ภาคเอกชนมีความพึงพอใจ
ส่วนอัตราค่าเช่าที่ดินรายปีของเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษระยะแรก ในจังหวัดตาก มุกดาหาร ตราด สระแก้ว และสงขลา และหนองคาย อยู่ที่อัตราไร่ละ 24,000-40,000 บาท ต่อปี โดยให้ปรับค่าเช่าเพิ่ม 15% ทุก 5 ปี นอกจากนี้ที่ยังรับทราบความก้าวหน้าด้านการให้สิทธิประโยชน์ในเขตพัฒนา เศรษฐกิจพิเศษด้วย โดยกรมสรรพากรออกประกาศลดอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลจาก 20% เหลือ 10% เป็นเวลา 10 รอบบัญชี สำหรับกิจการทั่วไปที่ไม่อยู่ในข่ายได้รับการส่งเสริมการลงทุนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ)
ส่วนความคืบหน้าของการขอรับการส่งเสริมการลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษระยะแรกว่า ขณะนี้มีจำนวนวงเงินลงทุนที่ขอรับการส่งเสริมแล้วจำนวน 400 ล้านบาท
ที่มา : หนังสือพิมพ์ข่าวสด