นายสัมมา คีตสิน ผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ดัชนีราคาห้องชุดในไตรมาส 2 ปี 2559 ในเขตกรุงเทพฯ นนทบุรี และสมุทรปราการ ปรับเพิ่มขึ้น 5% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน

ทั้งนี้ หากแยกตามระดับราคาจะพบว่า ห้องชุดที่มีราคาไม่เกิน 5 หมื่นบาท/ตารางเมตร (ตร.ม.) ปรับเพิ่มขึ้น 2.9% ห้องชุดราคา 5-8 หมื่นบาท/ตร.ม. เพิ่มขึ้น 4.2% สำหรับห้องชุดราคา 8 หมื่น-1.2 แสนบาท/ตร.ม. เพิ่มขึ้น 5.9% และห้องชุดราคามากกว่า 1.2 แสนบาท/ตร.ม. เพิ่มขึ้น 4.7% สำหรับห้องชุดที่มีการปรับราคาเพิ่มขึ้นมากใน 5 ลำดับแรก ได้แก่

นายสัมมา กล่าวอีกว่า ในส่วนของดัชนีราคาบ้านเดี่ยวในกรุงเทพฯ นนทบุรี ปทุมธานี และสมุทรปราการ ในไตรมาส 2 ปี 2559 ปรับเพิ่มขึ้น 1.6% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า หากแยกเป็นดัชนีราคาบ้านเดี่ยวในเขตกรุงเทพฯ ดัชนีจะปรับขึ้น 1.7% ส่วนดัชนีราคาบ้านเดี่ยว ในเขต จ.นนทบุรี ปทุมธานี และสมุทรปราการ ปรับขึ้น 1.5%

ขณะที่ดัชนีราคาทาวน์เฮาส์ในพื้นที่กรุงเทพฯ นนทบุรี ปทุมธานี และสมุทรปราการ ในไตรมาส 2 ปี 2559 ปรับขึ้น 2.3% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า หากแยกเป็นดัชนีราคาทาวน์เฮาส์ในเขตกรุงเทพฯ จะปรับขึ้น 2.2% ในขณะที่ดัชนีราคา ทาวน์เฮาส์ใน จ.นนทบุรี ปทุมธานี และสมุทรปราการ ปรับเพิ่มขึ้น 2.4%

"ดัชนีราคาที่อยู่อาศัยที่ปรับขึ้น ส่วนใหญ่เกิดจากกลุ่มคอนโดมิเนียมเป็นหลัก ขณะที่บ้านแนวราบราคาขยับขึ้นในอัตราลดลงมา 4-5 ไตรมาสแล้ว โดยกลุ่มคอนโดมิเนียมราคา 8 หมื่น - 1 แสนบาท เป็นกลุ่มที่ปรับขึ้นมากที่สุด เนื่องจากต้นทุนที่ดินสูงขึ้นและส่วนหนึ่งคอนโดมิเนียมกลุ่มนี้ปรับฐานจากราคา 6-7 หมื่นบาท มาเป็น 8 หมื่นบาท/ตร.ม. สำหรับที่อยู่อาศัยแนวราบในอดีตเคยปรับขึ้นมากถึง 3% แต่จะเห็นว่าไตรมาสล่าสุดขยับขึ้นเพียง 1.7-2.3% เท่านั้น" นายสัมมา กล่าว

ทั้งนี้ ศูนย์ข้อมูลฯ ได้จัดทำดัชนีราคาห้องชุดอย่างเป็นทางการครั้งแรกในช่วงครึ่งปีแรกปี 2553 โดยใช้ราคาปี 2552 เป็นปีฐาน และใช้ฐานข้อมูลการสำรวจเฉพาะในกรุงเทพฯ เพียงจังหวัดเดียว ต่อมาในครึ่งปีหลังปี 2556 ได้ปรับปีฐานเป็นปี 2555 และขยายพื้นที่สำรวจให้ครอบคลุมทั้ง กรุงเทพฯ นนทบุรี และสมุทรปราการ ซึ่งเป็นบริเวณที่มีโครงการที่อยู่อาศัยประเภทห้องชุดคอนโดมิเนียมหนาแน่น

สำหรับดัชนีราคาบ้านเดี่ยวและดัชนีราคาทาวน์เฮาส์จัดทำอย่างเป็นทางการครั้งแรกในช่วงครึ่งปีแรกปี 2554 โดยใช้ราคาปี 2552 เป็นปีฐาน และใช้ฐานข้อมูลการสำรวจในกรุงเทพฯ นนทบุรี ปทุมธานี และสมุทรปราการ ต่อมาในครึ่งปีแรกปี 2557 ศูนย์ข้อมูลฯ ได้ปรับปีฐานเป็นปี 2555

นอกจากนี้ ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ยังได้สำรวจดัชนีราคาวัสดุก่อสร้าง 5 เดือนแรกของปี 2559 พบว่า ดัชนีราคาวัสดุก่อสร้างโดยส่วนใหญ่ยังลดลงจากช่วงเดียวกันของปี โดยที่ดัชนีรวมราคาวัสดุก่อสร้างถึงเดือน พ.ค. 2559 ลดลง 3.9% เมื่อเทียบกับ 5 เดือนแรกของปี 2558 โดยที่ราคาไม้และผลิตภัณฑ์จากไม้ ดัชนีราคาลดลง 1% ดัชนีราคาซีเมนต์ลดลง 5.5% ดัชนีราคาผลิตภัณฑ์จากคอนกรีตลดลง 2.3% ราคาเหล็กและผลิตภัณฑ์จากเหล็กลดลง 6.4% ราคากระเบื้องและวัสดุประกอบ วัสดุฉาบผิวอย่างหยาบ เครื่องสุขภัณฑ์ ราคาทรงตัว ขณะที่ดัชนีราคาอุปกรณ์ไฟฟ้าและประปา 5 เดือนแรกลดลง 2.5%