1. ไฟหน้าประตูรั้ว
ควรมีดวงไฟ 2 ดวงวางด้านข้างประตู เปิดทิ้งไว้ในเวลา กลางคืนเพื่อดึงโชคลาภเข้าสู่บ้าน เหตุผลที่ต้องติดไฟ 2 ดวง เพื่อให้เกิดความสมดุล (เป็นหยาง) และควรเปิดทิ้งไว้เวลากลางคืนเพื่อดึงโชคลาภเข้าบ้าน นอกจากนี้กรณีที่บริเวณตรงข้ามกับบ้านเป็นบ้านร้างหรือที่รกร้าง ไฟหน้าบ้านจะช่วยแก้ไขพลังอินชี่ (หยินพิฆาต) ได้เป็นอย่างดีอีกด้วย
2. ไฟหน้าประตูบ้าน
บริเวณทางเข้าบ้าน เป็นจุดที่จะต้องมีแสงสว่าง เพราะฉะนั้นจึงควรติดไฟไว้อย่างน้อย 1 ดวง
3. ไฟสนาม
บ้านที่มีพื้นที่มากแล้วปล่อยว่างเป็นสนาม ก็ควรติดไฟไว้ที่สนามเพื่อปรับความสมดุลของพื้นที่ เพราะถ้าไม่ติดไฟเวลากลางคืนสนามจะมืดมาก จะให้เกิดก่อสภาพอินชี่ได้
4. ไฟห้องนอน
ไม่ควรใช้ไฟประเภทหลอดเปลือยมองเห็นดวงไฟ ควรจะเป็นไฟโคมที่กรองแสง หรือทำเพดานหลุมเพื่อซ่อนไฟเอาไว้ และห้ามวางตำแหน่งของดวงไฟตรงกับเตียงนอน เพราะแสงที่สว่างเกินไปจะรบกวนการนอนได้
5. ไฟห้องน้ำ
เพราะห้องน้ำมีความชื้นมาก จึงควรใช้ไฟที่มีความสว่างมาก ยิ่งห้องน้ำที่อยู่ในตำแหน่งอับทึบไม่มีแสงจากธรรมชาติส่องถึง ยิ่งต้องใช้ไฟที่สว่างเป็นพิเศษ เพื่อเผาผลาญเชื้อโรค และไล่ความชื้นให้หมดไป
6. ไฟห้องทำงาน
ห้องทำงานต้องการความกระตือรือร้น มีชีวิตชีวา ไฟในห้องนี้จึงต้องสว่างเป็นพิเศษ เพราะแสงสว่างจะช่วยกระตุ้นให้เกิดการเคลื่อนไหว กระฉับกระเฉง ถ้าใช้ไฟสลัว บรรยากาศภายในห้องจะทำให้อยากพักมากกว่าอยากทำงาน
7. ไฟบันได
บันไดก็เป็นอีกจุดหนึ่งที่จะต้องสว่าง เพราะเป็นจุดขึ้น-ลง และมีความลาดชัน ถ้าบริเวณบันไดไม่ติดดวงไฟ โอกาสที่จะเกิดอุบัติเหตุ ลื่นล้ม หรือเสี่ยงต่อการตกบันไดก็มีมาก บริเวณบันไดจึงเป็นจุดที่ขาดแสงสว่างไม่ได้เลย ควรมีไฟติดไว้อย่างน้อย 1 ดวง
8. ไฟระเบียงหรือดาดฟ้า
บริเวณระเบียงบ้านหรือดาดฟ้า ในทางฮวงจุ้ยถือเป็นจุดรับพลังชี่ที่ดี การติดไฟไว้บริเวณระเบียงในเวลากลางคืน จึงเป็นตัวชักนำชี่ที่ดีเข้าสู่บ้านได้
การใช้ดวงไฟในการให้แสงสว่างภายในบ้าน ถ้ารู้จักปรับใช้ให้ถูกกับการใช้สอยของแต่ละห้องแต่ละสถานที่ ก็จะช่วยส่งเสริมให้บ้านหลังนั้นมีฮวงจุ้ยที่ดี เป็นบ้านหยางที่มีชีวิตชีวา ?
ขอบคุณข้อมูลจาก : nanapaint.com