นายล่องลม บุนนาค ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการลงทุน บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าแนวทางที่สิงห์ เอสเตท จะใช้ในการรุกธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ไม่ว่าจะเป็นการซื้อกิจการหรือการร่วมทุนกับผู้ถือหุ้นเดิม เตรียมงบประมาณราว 20,000 ล้านบาท
ภายในปีนี้มีโรงแรมในจังหวัดท่องเที่ยวหลัก ขนาดไม่น้อยกว่า 150 ห้อง รวม 2 แห่ง มูลค่าซื้อ-ขายไม่น้อยกว่า 5,000 ล้านบาท และอาคารสำนักงานแบบมิกซ์ยูส มูลค่าเกิน 5,000 ล้านบาท เพื่อเป้าหมายในการสร้างรายได้ระยะยาว ตามแผนบริษัทต้องการให้สัดส่วนรายได้จากการเช่าใกล้เคียงกับรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์
นอกจากนี้ยังมีแผนลงทุนซื้ออสังหาริมทรัพย์ในต่างประเทศ โดยมุ่งไปประเทศที่สภาพตลาดอสังหาริมทรัพย์อยู่ในช่วงขาลง เนื่องจากเป็นกลยุทธ์ระยะสั้น-กลาง 3-5 ปี เพื่อเก็บรายได้เป็นค่าเช่าระหว่างรอให้ตลาดฟื้นตัวดีขึ้นแล้วจึงปล่อยขาย โดยบริษัทคาดหวังผลตอบแทนจากการลงทุนในลักษณะนี้ไม่ต่ำกว่า 10% ซึ่งภายในปีนี้จะเจรจาซื้ออย่างน้อย 1 โครงการเช่นกัน ไม่เอเชียก็ยุโรป
"นาย สันติ ภิรมย์ภักดี ผู้ถือหุ้นใหญ่ให้นโยบายการ ลงทุนอสังหาฯ ในอาเซียน เป็นไปในทิศทางเดียวกับนโยบายรัฐบาลซึ่งให้ความสำคัญกับภาคธุรกิจท่องเที่ยว โดยเฉพาะธุรกิจโรงแรม รวมถึงการเปิดประชาคมเศรษฐกิจ (AEC) จะมีผลให้ธุรกิจสนามกอล์ฟในไทยกลับมาคึกคักอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งเป็นโอกาสลงทุนเช่นเดียวกัน"
นายล่องลมกล่าวอีกว่า แต่ทั้งนี้ต้องย้ำว่ารูปแบบ การร่วมทุนก็ดีหรือซื้อกิจการก็ดี จะเน้นการสมประโยชน์ร่วมกัน ไม่แค่ 1+1 เท่ากับ 2 แต่อาจเป็น 3 หรือ 4 ล่าสุดบริษัทยังอยู่ระหว่างรวบรวมบุคลากรด้านการบริหารจัดการ โรงแรมเพื่อเตรียมเปิดธุรกิจด้านนี้โดยเฉพาะ และในอนาคตมีแผนจะขยายงานบริหารจัดการด้านโรงแรม
ที่มา : หนังสือพิมพ์ข่าวสด