สิงห์ เอสเตท ตั้งงบลงทุน 1.88 หมื่นล้าน ลุยเทคโอเวอร์ต่อ-พัฒนาคฤหาสน์หลังละ 150 ล้านบาท

1,187 Views เผยแพร่ 12 ก.พ. 59
สิงห์ เอสเตท ตั้งงบลงทุน 1.88 หมื่นล้าน ลุยเทคโอเวอร์ต่อ-พัฒนาคฤหาสน์หลังละ 150 ล้านบาท

สิงห์ เอสเตท เตรียมงบลงทุน 18,800 ล้านบาท ลุยซื้อกิจการต่อ แย้มดีลโรงแรมอังกฤษเพิ่ม 5 แห่ง แตกไลน์ทำธุรกิจโลจิสติกส์และคลังสินค้า ตั้งเป้ารายได้ปีนี้ 7,000 ล้านบาท พัฒนาอสังหาฯเพื่อขายคอนโดหรู-บ้านเดี่ยว 150 ล้านบาท วางแผนเริ่มมีกำไรปี 2560

นายนริศ เชยกลิ่น ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปีนี้บริษัท ตั้งงบประมาณการลงทุนไว้ 18,800 ล้านบาท โดยเป็นงบซื้อกิจการ 70-80% หรือประมาณ 1.5 หมื่นล้านบาท ทั้งส่วนโรงแรม ออฟฟิศบิลดิ้ง และแตกไลน์ธุรกิจเตรียมซื้อกิจการโลจิสติกส์และคลังสินค้า

ตั้งเป้าบรรลุดีลซื้อกิจการประมาณ 6-7 ดีลในปีนี้ ที่อยู่ระหว่างเจรจาแล้วคือดีลเทกโอเวอร์โรงแรมในประเทศอังกฤษเพิ่มอีก 5 แห่ง, บริษัทด้านนิคมอุตสาหกรรม 1 แห่ง, บริษัทคลังสินค้า 1 แห่ง และคาดว่าจะมีคอมมูนิตี้มอลล์ 2 ราย  โดยงบลงทุน 18,800 ล้านบาท หากแบ่งตามประเภทธุรกิจ ได้แก่

  1. ธุรกิจโรงแรม 42% ขณะนี้มีการศึกษาการลงทุนโรงแรมในต่างประเทศ ได้แก่ อังกฤษ เยอรมนี สเปน ญี่ปุ่น CLMV และมาเลเซีย
  2. ธุรกิจรีเทลและออฟฟิศ 20% ซึ่งจะพัฒนาคุณภาพตลาดซันพลาซ่าในตึกซันทาวเวอร์ส และก่อสร้างอาคารสำนักงานสิงห์ คอมเพล็กซ์ต่อเนื่อง
  3. ธุรกิจโลจิสติกส์และคลังสินค้า 11% สำหรับการซื้อกิจการในไทย และกำลังศึกษาตลาดในเวียดนามและเมียนมาซึ่งมีการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจสูง
  4. ธุรกิจที่พักอาศัย 27% สำหรับลงทุนโครงการใหม่ปีนี้เบื้องต้น 3 โครงการ มูลค่า 1.4 หมื่นล้านบาท ได้แก่ โครงการบ้านเดี่ยวถนนประดิษฐ์มนูธรรม ที่ดิน 45 ไร่ แบ่งแปลงบ้านเดี่ยว 24 ยูนิต ที่ดินแปลงละ 1 ไร่ขึ้นไป พื้นที่ใช้สอย 800 ตร.ม.ขึ้นไป ราคาไม่ต่ำกว่า 150 ล้านบาทต่อหลัง, คอนโดมิเนียมบริเวณสำนักงานสิงห์ คอมเพล็กซ์ ที่ดิน 2 ไร่ มูลค่า 4,000 ล้านบาท ราคา 3 แสนบาท/ตร.ม. และคอนโดมิเนียมริมแม่น้ำเจ้าพระยา มูลค่า 6,000 ล้านบาท ทำเลย่านคลองสาน เป็นคอนโดฯสูง 49 ชั้น ราคา 3 แสนบาท/ตร.ม. โดยทั้งหมดเป็นโครงการระดับซูเปอร์ลักเซอรี่

นายนริศกล่าวว่า ตั้งเป้าหมายรายได้ปีนี้ 7,000 ล้านบาท และน่าจะยังไม่มีกำไรเช่นเดียวกับปี 2558 เนื่องจากยังอยู่ในช่วงเข้าซื้อกิจการตามแผน 3 ปี (2558-2560) คาดว่าจะเริ่มมีกำไรในปี 2560

"ตลาดปีนี้ที่พักอาศัยน่าจะไม่ค่อยดีมาก แต่ธุรกิจโรงแรมคาดว่าจะดีมาก เพราะการท่องเที่ยวยังไปได้ ดูจากเดือนมกราคมปีนี้ซึ่งเป็นช่วงไฮซีซั่น ทั้งโรงแรมสันติบุรี สมุย และพีพี ไอส์แลนด์ วิลเลจของบริษัท มีอัตราเข้าพัก 100% ส่วนความคาดหวัง มองเรื่องการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐจะทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น และภาวะราคาน้ำมันเชื่อว่าถ้าเริ่มปรับขึ้น จะทำให้สินค้าโภคภัณฑ์ราคาสูงขึ้นตาม ส่งผลดีต่อสภาพเศรษฐกิจ" นายนริศกล่าวและว่า

สำหรับการดำเนินงานปี 2558 ธุรกิจโรงแรม สันติบุรี บีช รีสอร์ท แอนด์ สปา เกาะสมุย จำนวน 78 ห้อง มีอัตราเข้าพัก 60%, พีพี ไอส์แลนด์ วิลเลจ บีช รีสอร์ท เกาะพีพี มีการปรับปรุงเพิ่มวิลล่า 45 หลังรวมเป็น 201 หลังและสระว่ายน้ำแล้วเสร็จ อัตราเข้าพัก 80%, โรงแรมเครือแกรนด์ เมอร์เคียว อังกฤษ 26 แห่ง 2,800 ห้อง ดำเนินการปรับปรุงบางแห่งต่อเนื่อง

ธุรกิจอาคารสำนักงานและรีเทล ไลท์เฮ้าส์ คอมมูนิตี้มอลล์ เขตคลองสาน ปรับปรุงแล้วเสร็จ, อาคารซันทาวเวอร์ส์ พื้นที่ 1.23 แสนตร.ม. ตึกเอ มีผู้เช่า 100% ตึกบี มีผู้เช่า 90% และกำลังปรับปรุงพื้นที่ซันพลาซ่าซึ่งเป็นส่วนรีเทลในโครงการ, อาคารสิงห์ คอมเพล็กซ์ ก่อสร้างฐานรากเรียบร้อย อยู่ระหว่างจัดหาผู้รับเหมา คาดสามารถเปิดใช้บริการได้ปลายปี 2560

ธุรกิจที่พักอาศัย ปี 2558 เปิดโครงการคอนโดฯ ดิ เอส อโศก มูลค่า 4,500 ล้านบาท ขณะนี้มียอดจองแล้ว 70% และอยู่ระหว่างก่อสร้าง

คลิกที่รูปเพื่อดูรายละเอียดโครงการ ดิ เอส อโศก (The Esse Asoke) ดิ เอส อโศก (The Esse Asoke)

 

ที่มา : ประชาชาติธุรกิจออนไลน์

ลงประกาศขาย-เช่าฟรี คำนวณการขอสินเชื่อ

คุ้มค่าน่าอ่าน

ประกาศซื้อ-ขายมาใหม่

SHARE

Share Tweet Share
BanKumKa.Com เป็นเว็บไซต์ศูนย์กลางสำหรับซื้อ-ขายอสังหาริมทรัพย์ของประเทศไทย ด้วยข้อมูลที่พร้อมทั้งคอนโดมิเนียม บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ อาคารพาณิชย์ และที่ดิน ไม่ว่าจะเป็นโครงการใหม่หรือบ้านมือสอง อีกทั้งบทความและข่าวสารที่เกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ เพื่อให้คุณได้คัดสรรทรัพย์ที่ดีที่สุดได้ในเว็บไซต์ BanKumKa.com ที่เดียว
เว็บไซต์ BanKumKa.Com มีการเก็บ Cookies ซึ่งเป็นการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลและช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานเว็บไซต์ สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่หน้า นโยบายความเป็นส่วนตัว ยอมรับ