บสก.เปิดขายคอนโดราคาถูก ผ่อนเดือนละพันเจาะรากหญ้า
นายสมพร มูลศรีแก้ว รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (บสก.) เปิดเผยว่า เตรียมจัดทำโครงการสบายคอนโดด้วยการปรับปรุงคอนโดมิเนียม 500 ยูนิต จาก 40 โครงการในเขตปริมณฑลออกมาจำหน่ายให้กับผู้ที่มีรายได้น้อย คาดว่าจะเปิดตัวโครงการในเดือนก.ค.นี้ โดยราคาคอนโดมิเนียมไม่เกิน 300,000 บาท ระยะเวลาการผ่อนชำระ 10 ปี ส่วน เงื่อนไขการซื้อขายคอนโดมิเนียมในเบื้องต้นกำหนดไว้ว่าลูกค้าที่สนใจวางเงิน ดาวน์เพียง 1,000 บาทและวันที่เซ็นสัญญาซื้อขายต้องชำระเงินอีก 1,000 บาทหลังจากนั้นก็สามารถเข้าอยู่ได้เลย ซึ่งระยะเวลาการผ่อนชำระจะอยู่ที่ประมาณ 1,000-3,000 บาทต่อเดือน ขึ้นกับลูกค้าจะเลือกซื้อคอนโดมิเนียมราคาเท่าไหร่ แต่ปีสุดท้ายในการผ่อนชำระจะต้องสมทบเงินจ่ายให้หมดหรือประมาณ 20% ของมูลค่าคอนโดมิเนียมที่ซื้อ
"โครงการนี้ช่วยให้คนมีรายได้น้อยมีที่อยู่เป็นของตนเอง เพราะปกติการเช่าที่อยู่อาศัยราคาประมาณ 1,500-2,000 บาทต่อเดือนอยู่แล้ว เช่นโครงการนิรันดร์คอนโด ที่อยู่ จ.สมุทรปราการ เป็นโครงการขนาด 200-300 ยูนิต และหทัยราษฎร์คอนโดมิเนียม อยู่ที่สุขาภิบาล 5 ประมาณ 100 ยูนิต อยู่ระหว่างการตกแต่งใหม่คาดว่าจะแล้วเสร็จและเปิดให้จองซื้อได้ตามแผนที่ วางไว้โดยราคาคอนโดมิเนียมเริ่มต้นตั้งแต่ 100,000-300,000 บาท"
ส่วนลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย คือ อาชีพอิสระ เช่น คนขับรถแท็กซี่ วินมอเตอร์ไซค์รับจ้าง พ่อค้า-แม่ค้า แผงลอย แต่ผู้ซื้อจะต้องมีแหล่งทำมาหากินหรือสถานที่ในการประกอบกิจการที่ชัดเจน และสามารถตรวจสอบได้ โดยเบื้องต้นจะทำเป็นสัญญาเช่าซื้อกับลูกค้าก่อนไม่ได้จดจำนองแต่หลังจาก ผ่อนชำระค่างวดครบทั้งหมดถึงจะโอนให้เป็นกรรมสิทธิ์ลูกค้า ซึ่ง บสก.เป็นผู้ปล่อยเองไม่ได้ใช้สถาบันการเงินอื่น
สำหรับการซื้อเอ็นพีแอลเข้ามาบริหารนั้น ในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมาซื้อเอ็นพีแอลจากสถาบันการเงินมาแล้ว 3,000-4,000 ล้านบาทและอยู่ระหว่างการเจรจากับสถาบันการเงิน 3-4 ราย วงเงินประมาณ 3,000 ล้านบาท คาดว่าจะได้ข้อสรุปเร็ว ๆ นี้ จากปี 57 ที่ผ่านมา ซื้อเอ็นพีแอลประมาณ 13,000 ล้านบาท ซึ่งยอมรับว่าเศรษฐกิจที่ชะลอตัวทำให้สถาบันการเงินนำเอ็นพีแอลออกมาขายให้ บสก.เป็นจำนวนมาก ส่วนสินทรัพย์ภายใต้การบริหารหรือเอ็นพีเอในปีนี้ตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะมียอดขายประมาณ 8,000 ล้านบาท และช่วงต้นปีขายได้แล้วประมาณ 3,000 ล้านบาท ส่วนรายได้ปีนี้จะอยู่ที่ 19,000 ล้านบาท
ส่วนแนวโน้มบ้านมือ 2 ยังเติบโตดีเนื่องจากในช่วงที่ผ่านมาการก่อสร้างโครงการบ้านใหม่ชะลอตัวลง เพราะปัญหาเศรษฐกิจ แต่เชื่อว่าในช่วงครึ่งปีหลัง (ก.ค.-ธ.ค.) กำลังซื้อของลูกค้าจะปรับตัวดีขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัวส่วนราคายังไม่ได้มีการปรับใหม่ แม้ว่าจะมีต้นทุนการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้น ส่วน แผนการทำตลาดบริษัทฯจะเน้นการทำตลาดในเชิงรุก เจาะกลุ่มลูกค้าเฉพาะกลุ่มชัดเจน แบ่งเป็นลูกค้าคอนโดมิเนียม บ้านแนวราบ และซื้อเพื่อการลงทุน พร้อมให้เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ตรงจุด
ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
