นายฮิเดกิ นิชิคามิ ผู้อำนวยการและผู้บริหารอาวุโส บริษัท มิตซูบิชิ จิโช เรสซิเดนซ์ เปิดเผยว่า บริษัทให้ความสำคัญกับตลาดอสังหาริมทรัพย์ในไทย โดยเฉพาะตลาดกรุงเทพฯอย่างต่อเนื่อง หลังจากร่วมทุนกับกลุ่มเอพีตั้งแต่ปลายปี 2556 โดยมองว่าประชากรในกรุงเทพฯและคนที่เข้ามาทำงานในกรุงเทพฯที่เพิ่มขึ้น รายได้ครัวเรือนเพิ่มขึ้น ประกอบกับการขยายตัวของรถไฟฟ้าเส้นทางใหม่ๆ ภาครัฐเร่งดำเนินการยิ่งทำให้ตลาดในกรุงเทพฯมีความโดดเด่นมาก
ขณะที่ปัจจัยทางการเมืองของไทยแม้ว่าจะยังต้องจับตามอง แต่ปัจจัยบวกในเรื่องโครงการรถไฟฟ้า และความต้องการที่อยู่อาศัยตามแนวรถไฟฟ้าในกรุงเทพฯ ที่เพิ่มขึ้น จึงทำให้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในไทยยังมีโอกาสในการลงทุน โดยกลุ่มมิตซูบิชิฯ ยังยืนยันแผนการลงทุนในไทยระยะ 5 ปี จะมีมูลค่าโครงการต่อปีประมาณ 2 หมื่นล้านบาท
สำหรับ ปีนี้กลุ่มมิตซูบิชิฯ จะมีโครงการร่วมทุนกับเอพีอีก 5 โครงการ คิดเป็นมูลค่าโครงการรวม 2 หมื่นล้านบาท พร้อมเปิดเผยแล้ว 2 โครงการ คือ ไลฟ์ อโศก จำนวน 1,642 ยูนิต คิดเป็นมูลค่าโครงการ 6,300 ล้านบาท และริทึ่ม รางน้ำ จำนวน 385 ยูนิต มูลค่าโครงการ 2,500 ล้านบาท ส่วนอีก 3 โครงการยังอยู่ระหว่างหารือร่วมกับเอพี ซึ่งมูลค่าโครงการร่วมทุนกับเอพี ปีนี้เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาเท่าตัว ที่มีมูลค่าลงทุนประมาณ 1 หมื่นล้านบาท
นาย วิทการ จันทวิมล รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานกลยุทธ์การตลาด บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) หรือ AP กล่าวว่า หลังจากการตอบรับของ 4 โครงการร่วมทุนในปีที่ผ่านมา ทำให้กลุ่มทุนญี่ปุ่นยังสนใจลงทุนในไทยต่อเนื่อง โดยเฉพาะโครงการที่อยู่ใกล้รถไฟฟ้าไม่เกิน 400 เมตร โดยหนึ่งในโครงการร่วมทุนที่คาดว่าจะได้รับความสนใจจากผู้บริโภคคนไทย คือ ริทึ่ม รางน้ำ เพราะใกล้รถไฟฟ้ามากและมีซัพพลายเข้าสู่ตลาด ในย่านนี้ไม่มากนัก รวมถึงราคา เปิดตัวที่เริ่มต้น 1.7 แสนบาท / ตารางเมตร (ตร.ม.) ถือว่าไม่สูงมากเมื่อเทียบกับทำเลใกล้เคียง
ด้านภาพรวมการซื้อขายในช่วง 4 เดือนแรกที่ผ่านมา ในส่วนของเอพีถือว่ายังเป็นไปตามเป้าหมาย โดยสามารถสร้างยอดขายได้ 6,800 ล้านบาทแล้ว คิดเป็น 54% ของเป้ายอดขายครึ่งปีแรกที่วางไว้ 1.2 หมื่นล้านบาท โดยยอดขายส่วนใหญ่เป็นบ้านแนวราบ เพราะคอนโดมิเนียมจะเริ่มเปิดตัวพร้อมกัน 6 โครงการ มูลค่าโครงการวม 16,120 ล้านบาท ในช่วงเดือน มิ.ย.นี้ จึงเชื่อว่าจะทำได้ตามเป้าหมาย
ที่มา : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์