พฤกษาฯ ลุยลงทุนแปลงใหญ่พัฒนาทีละหลายโครงการในแปลงเดียว รูปแบบพฤกษา อเวนิว ระบุบริหารจัดการง่าย ลดต้นทุน เผยตุน 7-8 แปลงในมือ เผยทุ่มงบ 800 ล้านบาท พัฒนาระบบไอที R&D วิจัยตลาด รองรับการเติบโตในอนาคต

นายเลอศักดิ์  จุลเทศ รองประธานกรรมการบริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ร่วม บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ PS เปิดเผยว่า แผนการลงทุนพัฒนาโครงการของบริษัทหลังจากนี้จะเน้นการซื้อที่ดินแปลงใหญ่ ขนาด 100 ไร่ขึ้นไป เพื่อพัฒนโครงการแบบผสมผสานมีบ้านหลากหลายรูปแบบภายในโครงการเดียว รูปแบบเช่นเดี่ยวกับโครงการพฤกษา อเวนิว พัฒนาการ 38 เนื้อที่ทั้งโครงการ 231 ไร่ ภายในพฤกษา อเวนิวพัฒนาเป็นโครงการบ้านแนวราบถึง 13 โครงการ หลากหลายรูปแบบตั้งแต่ระดับกลาง-บน ภายในโครงการเดียว

การพัฒนาในรูปแบบพฤกษา อเวนิว ทำให้ง่ายต่อการบริหารจัดการโดยเฉพาะในเรื่องของงานก่อสร้าง แรงงาน วัสดุอุปกรณ์ การขนย้าย ไม่ต้องย้ายคนงานบ่อยๆ การใช้เครื่องจักรที่ต่อเนื่องกัน ลดจำนวนพนักงานดูแลโครงการ ซึ่งทำให้ลดต้นทุนในหลายด้าน อย่างไรก็ตามการพัฒนาโครงการในรูปแบบพฤกษา อเวนิว ทำเลโครงการจะต้องอยู่ในทำเลที่มีศักยภาพความความต้องการที่อยู่อาศัยในย่านนั้นจำนวนมากเพียงพอ

ปัจจุบัน บริษัทมีที่ดินแปลงใหญ่เพื่อพัฒนาโครงการในรูปแบบดังกล่าว 7-8 แปลง คาดว่าจะสามารถเปิดขายได้ในเร็วๆ นี้ รวมถึงมีแผนซื้อ ที่ดินแปลงใหญ่เพิ่มอีกด้วย อย่างไรก็ดี เพื่อให้สอดคล้องกับกลยุทธ์หลักวางไว้ 4 ด้านด้วยกัน ประกอบด้วย การขยายตลาด ทั้งในต่างจังหวัดและ ตลาดที่อยู่อาศัยระดับบน และตลาดคอนโดมิเนียมระดับล่าง การนำนวัตกรรมมาใช้เพื่อลดต้นทุนและเพิ่มคุณภาพบ้าน ซึ่งที่ผ่านมาได้นำระบบการก่อสร้างสำเร็จรูปซึ่งเป็นเทคโนโลยีการผลิตในระบบ อุตสาหกรรมจากประเทศเยอรมนีมาใช้ตั้งแต่ปี 2547 เพื่อลดระยะเวลาก่อสร้าง กับเป้าหมายที่จะเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ 1 ใน 10 ของเอเชีย เป็นแบรนด์อันดับหนึ่งในใจลูกค้า และมีการเติบโตที่ยั่งยืน

ทั้งนี้ บริษัทมีแผนขยายฐานลูกค้าระดับบน เพิ่มส่วนแบ่งตลาด ประกอบด้วย ทาวน์เฮาส์ ราคา 7 ล้านบาทขึ้นไป บ้านเดี่ยวราคา 10 ล้านบาท ขึ้นไป และคอนโดมิเนียมราคา 5 ล้านบาทขึ้นไป หรือราคามากว่า 1.5 แสนบาทต่อตร.ม. เพื่อขยายฐานลูกค้าและสร้างรายได้มากขึ้น โดยบริษัทตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนรายได้ในส่วนของสินค้าระดับบนไว้ที่ 10-15% ของรายได้รวมภายในระยะเวลา 5 ปี

ที่ ผ่านมาพฤกษา ถือเป็นผู้นำตลาดที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้ระดับต่ำถึงปานกลาง โดยพัฒนาบ้านราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาท มีสัดส่วนมากถึง 56% บ้านราคา 3-5 ล้านบาท มีสัดส่วน 35% ส่วนบ้านราคา 5 ล้านบาทขึ้นไป มีสัดส่วนเพียง 9% เท่านั้น ในด้านราคาขายเฉลี่ยต่อยูนิตในปัจจุบัน ทาวน์เฮาส์ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 2.31 ล้านบาท บ้านเดี่ยวราคาเฉลี่ย 4.7 ล้านบาท และคอนโดมิเนียมราคาเฉลี่ย 1.58 ล้านบาท

และเพื่อรองรับการเติบโต ในปีหน้าบริษัทมีแผนขยายกำลังการผลิตชิ้นส่วนบ้านสำเร็จรูป พรีคาส์ท เพิ่มเป็น 8 ล้านตร.ม.ต่อปี จากปัจจุบันมีกำลังการผลิตรวม 6.5 ล้านตร.ม.ต่อปี หรือคิดเป็นกำลังการผลิตบ้านเชิงอุตสาหกรรมรวม 1,120 ยูนิตต่อเดือน จากโรงงานผลิตชิ้นส่วนบ้านสำเร็จ รูป 7 โรง มูลค่าการลงทุนกว่า 7,000 ล้านบาท โดยการขยายกำลังผลิตดังกล่าวจะเป็นการซื้อเครื่องจักรใหม่ รวมถึงการเพิ่มประสิทธิภาพของกระบวนการผลิต แต่อย่างไรก็ตาม บริษัทมีที่ดินบริเวณโรงงานพฤกษา พีคาสท์ นวนคร ที่ยังสามารถขยายโรงงานได้อีกจากที่ดินทั้งหมด 130 ไร่

นอกจากนี้ พฤกษายังให้ความสำคัญต่อการพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ๆอย่างต่อเนื่อง โดยปีนี้งบประมาณสำหรับการวิจัยและพัฒนา (The Research and Development) หรือ R&D งบวิจัยตลาด รวมถึงการพัฒนาระบบไอที จำนวน 800 ล้านบาท ซึ่งถือว่ามากกว่าที่ผ่านมา เพื่อรองรับการขยายธุรกิจและการเติบโตในอนาคต

ที่มา : ผู้จัดการรายวัน 360 องศา