ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ ขานรับสิทธิประโยชน์โครงการบ้านประชารัฐ นำโครงการคอนโดมิเนียม 1,000 ยูนิต มูลค่ากว่า 1,300 ล้านบาท เข้าร่วมโครงการ ด้านผู้บริหารเชื่อมาตรการรัฐส่งผลบวกต่ออุตสาหกรรมอสังหาฯแข็งขันมากขึ้น และโครงการของบริษัทตอบโจทย์ความต้องการผู้บริโภคอย่างแท้จริง มั่นใจปีนี้รายได้โตเท่าตัวแตะ 4,000 ล้านบาท ตุน Backlogในมือแล้วกว่า 6,846 ล้านบาท
นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI เปิดเผยว่า บริษัทฯเตรียมนำโครงการที่อยู่อาศัย จำนวน 5 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 1,300 ล้านบาท หรือคิดเป็นยูนิตรวมกว่า 1,000 ยูนิต เข้าร่วมโครงการบ้านประชารัฐ เพื่อตอบรับนโยบายของรัฐบาลในการช่วยสร้างโอกาสด้านที่อยู่อาศัยให้กับ ประชาชนผู้มีรายได้น้อย แต่มีความต้องการที่อยู่อาศัยหลังแรก
ทั้งนี้ โครงการคอนโดมิเนียม ของบริษัทที่เข้าร่วมโครงการบ้านประชารัฐ ดังนี้
- โครงการคอนโดมิเนียม B Loft สุขุมวิท 115 ราคา 1.39 ล้านบาท
- โครงการคอนโดมิเนียม Tropicana BTS Erawan ราคา 1.49 ล้านบาท
- โครงการคอนโดมิเนียม The Cabana Condo ราคา 1.29 ล้านบาท
- โครงการคอนโดมิเนียม Pause Condo สุขุมวิท 115 ราคา 1.39 ล้านบาท
- โครงการคอนโดมิเนียม Kensington แหลงฉบัง-ศรีราชา ราคา 1.19 ล้านบาท
ซึ่งโครงการดังกล่าวมีความโดดเด่นในเรื่องของการเดินทางที่ความสะดวกสบาย เพราะเป็นโครงการที่เกาะแนวรถไฟฟ้า และใกล้แหล่งชุมชน รวมทั้งเป็นโครงการที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ ที่มีสไตล์อย่างลงตัว ซึ่งยังไม่รวมถึง Notting Hill แพรกษา ที่ราคาขาย 1.1 - 1.5 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 1,300 ล้านบาท ที่จะเปิดขายในไตรมาสสองที่จะถึงนี้
สำหรับโครงการบ้านประชารัฐ ที่ทางคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบนั้น เป็นโครงการที่ช่วยสร้างโอกาสให้ประชาชนทั่วไป โดยเฉพาะกลุ่มผู้มีรายได้น้อย ผู้ซึ่งไม่เคยมีกรรมสิทธิ์ในที่อยู่อาศัยมาก่อน ให้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง โดยมอบหมายให้ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ธนาคารออมสิน และธนาคารกรุงไทยสนับสนุนสินเชื่อ "โครงการบ้านประชารัฐ" วงเงินรวมทั้งสิ้น 70,000 ล้านบาท แบ่งเป็น สินเชื่อพัฒนาโครงการ (Pre Finance) วงเงิน 30,000 ล้านบาท สำหรับผู้ประกอบการที่จะพัฒนาโครงการเพื่อเข้าร่วมโครงการบ้านประชารัฐ และสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย (Post Finance) สำหรับประชาชนทั่วไปวงเงินรวม 40,000 ล้านบาท
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ (ORI) กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับประชาชนที่สนใจใช้สิทธิ์โครงการบ้านประชารัฐนั้น ต้องเป็นผู้ที่ไม่เคยมีกรรมสิทธิ์ในที่อยู่อาศัยมาก่อน โดยมีความต้องการที่จะมีที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเอง แต่มีรายได้น้อย รัฐจึงเปิดโอกาสให้บุคคลเหล่านี้สามารถกู้เงินกับสถาบันการเงินได้ง่ายขึ้น ตามเงื่อนไขที่รัฐกำหนด ซึ่งสามารถติดต่อยื่นคำขอกู้และทำนิติกรรมได้ภายในระยะเวลา 2 ปี นับตั้งแต่ ครม. มีมติเห็นชอบในวันที่ 22 มีนาคม 2559 ที่ผ่านมา
"เชื่อว่ามาตรการรัฐหนุนภาพรวมอุตสาหกรรมอสังหาฯขยายตัวมากขึ้น ยิ่งเมื่อพิจารณาจากความต้องการที่อยู่อาศัยในปัจจุบันที่มีเพิ่มขึ้นอย่าง ต่อเนื่อง ตามการเติบโตของชุมชนเมืองตามแนวรถไฟฟ้า และกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีการแยกตัวออกมาจากครอบครัว เพื่อมาทำงาน หรือใดใดก็ตาม รวมทั้งความต้องการที่พักอาศัยเพื่อความเป็นส่วนตัวมากขึ้น และเมื่อพิจารณาจากค่าเช่า กับการซื้อคอนโดแล้วผ่อนชำระต่อเดือน ถือว่าไม่แตกต่างมากนัก ดังนั้นคอนโดของ "ออริจิ้น" จึงถือได้ว่าตอบโจทย์ความต้องการของบุคคลเหล่านี้ได้เป็นอย่างดี" นายพีระพงศ์ กล่าว
สำหรับผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/2559 คาดว่ามียอดขายประมาณ 1,000 ล้านบาท เพราะช่วง 2 เดือนแรกมียอดขายแล้วกว่า 800 ล้านบาท และเป้ารับรู้รายได้ประมาณ 400 ล้านบาท ซึ่งสาเหตุสำคัญมาจากการอัดแคมเปญต่างๆของบริษัทในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งสอดรับกับมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ในช่วงก่อนนี้ด้วย
ดังนั้นมั่นใจว่าการเติบโตของรายได้ในปี 2559 จะเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวหรือตามเป้าหมายที่ทางบริษัทได้ประกาศไว้ที่ระดับ 4,000 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ซึ่งเมื่อพิจารณาจากยอด Backlog ในมือ ณ สิ้นปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 6,846 ล้านบาท และโดยล่าสุดได้ฤกษ์เปิดพรีเซลโครงการ Notting Hill แหลมฉบัง-ศรีราชา โครงการหรูบนทำเลศักยภาพ ริมถนนสุขุมวิท ตรงข้ามมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ศรีราชา ใกล้ทั้งแหล่งงาน และสถานที่สำคัญต่างๆมากมาย มูลค่าโครงการ 1,200 ล้านบาท ราคาเริ่มต้นเพียง 1.59 ล้านบาท ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี