นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยระหว่างวงเสวนาเรื่อง "กฎหมายภาษีทรัพย์สิน : การเปลี่ยนแปลงและผลกระทบ" จัดโดยโครงการนิติเศรษฐศาสตร์การค้าระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ว่า กระทรวงการคลังได้ปรับปรุงอัตราเพดานจัดเก็บภาษี ในร่างภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างใหม่ ดังนี้
- ที่ดินเพื่อการเกษตรกรรม จัดเก็บไม่เกิน 0.25% จากเดิมกำหนดไม่เกิน 0.5% ของราคาประเมิน
- ที่ดินเพื่อที่อยู่อาศัย จัดเก็บไม่เกิน 0.5% จากเดิมไม่เกิน 1% ของราคาประเมิน
- ที่ดินอื่นๆ เช่น ที่ดินเชิงพาณิชย์ จัดเก็บไม่เกิน 2% จากเดิมไม่เกิน 4% ของราคาประเมิน
- ที่ดินที่รกร้างว่างเปล่า จะจัดเก็บไม่เกิน 0.5% ของราคาประเมิน และจะเพิ่มอีก 1 เท่าในทุกๆ 3 ปี แต่ไม่เกิน 2%
"อัตราภาษีดังกล่าว เป็นการปรับปรุงล่าสุด หลังจากได้รับฟังความเห็นจากผู้ที่เกี่ยวข้อง และผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสีย หากเรากำหนดเพดานไว้สูง แต่จัดเก็บจริงในอัตราต่ำ ก็ไม่เกิดประโยชน์ แต่ทำให้ผู้เสียภาษีตื่นตระหนก ทำให้เราปรับปรุงเพดานนี้ลงมา อัตรานี้เป็นอัตราตุ๊กตาที่จะเตรียมเสนอต่อรัฐบาล" นายรังสรรค์ กล่าว
สำหรับเกณฑ์การยกเว้นนั้น นายรังสรรค์ กล่าวว่า หลักการจัดเก็บภาษี เพื่อสร้างความเป็นธรรมและสร้างรายได้ให้รัฐบาล โดยไม่ยกเว้นให้มาก แต่คำนึงถึงกลุ่มผู้มีรายได้น้อยเป็นหลัก เบื้องต้น ยกเว้นภาษีที่อยู่อาศัยมูลค่าไม่เกิน 1 ล้านบาท ส่วนที่เกิน 1 ล้านบาท แต่ไม่ถึง 3 ล้านบาท ต้องเสียา 50% ของอัตราที่กำหนด ส่วนที่เกิน 3 ล้านบาท เสียเต็ม 100%
นอกจากนี้ ยังกำหนดการยกเว้นการจัดเก็บภาษีสำหรับสถานที่ราชการ วัด สาธารณะสมบัติ ที่ดินยูเอ็น สถานทูต สภากาชาดไทย ทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ที่ไม่ได้หาประโยชน์ สุสาน และที่ดินเอกชนที่ใช้ในราชการ โดยการยกเว้นนี้จะออกเป็นพระราชกฤษฎีกา
วัตถุประสงค์ของการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างก็เพื่อเข้ามาแก้ไข ปัญหาการจัดเก็บภาษีโรงเรือนและที่ดินและภาษีบำรุงท้องที่ ซึ่งอาศัยดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ในการจัดเก็บทำให้เกิดการเรียกรับประโยชน์ ขณะที่ การจัดเก็บภาษีตามร่างกฎหมายภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างจะจัดเก็บตามราคา ประเมินของกรมธนารักษ์ ซึ่งขณะนี้ กรมธนารักษ์อยู่ระหว่างการประเมิน คาดว่า จะแล้วเสร็จภายใน 1 ปี
การจัดเก็บรายได้ของท้องถิ่น จากภาษีโรงเรือนและที่ดิน รวมถึงภาษีบำรุงท้องที่ มีสัดส่วนน้อย หรือ 8-9% ของรายได้ท้องถิ่น รวมที่รัฐจัดสรรไปให้ โดยปี 2556 ท้องถิ่นมีรายได้รวม 5.7 แสนล้านบาท ปี 2557 ท้องถิ่นมีรายได้ 6.2 แสนล้านบาท ในจำนวนดังกล่าวท้องถิ่นจัดเก็บรายได้เองเพียง 8-9%
ดังนั้นการจัดเก็บภาษีดังกล่าว จะทำให้รัฐจัดเก็บภาษีจากความมั่งคั่งจริง ราคาประเมินที่ดินจะได้ปรับปรุงเป็นปัจจุบันมากขึ้น ลดการทุจริตของเจ้าหน้าที่รัฐ เพิ่มรายได้ท้องถิ่น ช่วยขยายฐานภาษีคาดรัฐมีรายได้ระยะแรกปีละ 3-4 หมื่นล้านบาท อัตราจัดเก็บไม่มีลักษณะถดถอย ช่วยกระจายอำนาจการคลัง เป็นประโยชน์ต่อการใช้ที่ดิน
ส่วนจะมีผลต่อการกระจายการถือครองที่ดินหรือไม่ นายรังสรรค์ เห็นว่า ไม่มีผลมาก เพราะอัตราภาษีที่อยู่ในระดับต่ำ ไม่ช่วยให้เกิดการกระจายการถือครอง แต่ระยะยาวอาจมีผลบ้าง ซึ่งขึ้นอยู่กับอัตราภาษีและราคาที่ดิน
ที่มา : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์