แสนสิริ เบรกลงทุนคอนโดฯ ตจว.ยาว 2-3 ปี แพ้ภัยพฤติกรรมผู้บริโภค ยูนิตเหลือขายเพียบ ลุยห้องชุดเกาะแนวรถไฟฟ้า โปรเจ็กต์ร่วมทุนบีทีเอส เผย 5 เดือนโกยยอดพรีเซลแล้ว 8-9 พันล้าน

นายอุทัย อุทัยแสงสุข รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานพัฒนาธุรกิจและพัฒนาคอนโดมิเนียม บมจ.แสนสิริ หรือ SIRI เปิดเผยว่า แผนธุรกิจคอนโดมิเนียม ยังดำเนินตามแผนเดิมที่วางไว้ 11 โครงการ ครึ่งปีแรกเปิดขาย 4 โครงการ มูลค่า 8 พันล้านบาท ครึ่งปีหลังเปิดอีก 7 โครงการ มูลค่า 2.2 หมื่นล้านบาท เป็นโครงการที่ร่วมทุนกับ บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้ง 7 โครงการ อีก 4 โครงการบริษัทจะลงทุนเอง

ล่าสุดได้เปิดตัวโครงการเดอะ ไลน์ อโศก-รัชดา ห่างรถไฟใต้ดินสถานีพระราม 9 ประมาณ 300 เมตร เป็นโครงการสุดท้ายของครึ่งปีแรก และเป็นโครงการแรกที่ร่วมทุนกับบีทีเอสในปีนี้ และเป็นโครงการที่ 4 ต่อจากจตุจักร-หมอชิต, ราชเทวี และสุขุมวิท 71 เป็นอาคารสูง 38 ชั้น 473 ยูนิต มูลค่า 2.8 พันล้านบาท รูปแบบ 1-2 ห้องนอน ขนาด 27-50 ตร.ม. ราคา 3.99-10 ล้านบาท หรือเฉลี่ย 1.7 แสนบาท/ตร.ม.

จะเริ่มสร้าง ก.ย.นี้ เสร็จพร้อมโอนใน ปี 2562 มียอดขายจากชาวต่างชาติไปแล้ว กว่า 1 พันล้านบาท หรือ 36% ของมูลค่าโครงการ สูงสุดฮ่องกง 70% ไต้หวัน และสิงคโปร์ 30% ส่วนไทยเปิดจอง 25-26 มิ.ย.

"ช่วง 5 เดือนแรกตั้ง ม.ค.-พ.ค. มียอด พรีเซล 8-9 พันล้านบาท จากเป้า 2.8 หมื่นล้านบาท เป็นไปตามเป้าที่ตั้งไว้ เพราะช่วงครึ่งปีหลังจะเปิดโครงการใหม่อีก 7 โครงการ และยังไม่ได้รวมยอดพรีเซลโครงการเดอะ ไลน์ อโศก-รัชดา"

ขณะที่ตลาดต่างจังหวัดยังไม่ดีโดยเฉพาะอีสาน เพราะพฤติกรรมคนในพื้นที่ยังไม่คุ้นชินกับที่อยู่อาศัยคอนโดฯ โดยบริษัทจะชะลอเปิดคอนโดฯในตลาดต่างจังหวัด 2-3 ปี แต่เมืองท่องเที่ยว คือ หัวหิน ภูเก็ต และเชียงใหม่ ยังมีแนวโน้มที่ดีอยู่

ตอนนี้มีโครงการพัฒนาเสร็จพร้อมขายเหลืออยู่ 6 พันล้านบาท เป็นต่างจังหวัด 5.4 พันล้านบาท หรือ 90% ราคาขายเฉลี่ย 2 ล้านบาท ที่จ.สุราษฎร์ธานี เชียงใหม่ เชียงราย ประจวบคีรีขันธ์ นครราชสีมา และชลบุรี ที่เหลืออยู่ในกรุงเทพฯและปริมณฑล ราคาขายเฉลี่ย 3-4 ล้านบาท ตั้งเป้าใช้เวลา 1-2 ปีจะสามารถขายได้หมด