อสังหาฯชิงเกมเปิดสายสีม่วงคาดปลุกแรงซื้อวิ่งฉิว-ยอดขายเพิ่ม 30-40%

1,025 Views เผยแพร่ 27 พ.ย. 58
อสังหาฯชิงเกมเปิดสายสีม่วงคาดปลุกแรงซื้อวิ่งฉิว-ยอดขายเพิ่ม 30-40%

กลุ่มผู้พัฒนาอสังหาฯเชื่อตลาดอสังหาฯแนวรถไฟฟ้าสายสีม่วงกลับมาคึกคักแน่ หลังเปิดการเดินรถอย่างเป็นทางการ คาดสต๊อกเก่าจะค่อยๆ ถูกดูดซับ ศุภาลัย คาดยอดขายหลังเปิดบริการเพิ่ม 30-40% ด้าน พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค เตรียมผุด 4 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 3 พันล้านบาท ปี 59 รับสายสีม่วงเปิดบริการ คอลลิเออร์ส เปิดผลสำรวจตลาดล่าสุด ยังมีโครงการอยู่ระหว่างการขายอีกกว่า 4 พันหน่วย

นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผย "ฐานเศรษฐกิจ" ถึงภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์แนวรถไฟฟ้าสายสีม่วงว่า พื้นที่ดังกล่าวมีสินค้าคงเหลือจำนวนมาก ทำให้อัตราการขายในปีที่ผ่านมาชะลอตัวลงอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากกำลังซื้อได้ถูกดูดซับไปก่อนหน้าแล้ว ขณะที่ราคาที่ดินก็ปรับเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ราคาขายคอนโดมิเนียมใหม่สูงกว่าเมื่อ 3-4 ปีที่ผ่านมา แต่การเปิดให้บริการเดินรถไฟฟ้าสายสีม่วงอย่างเป็นทางการ (บางใหญ่-บางซื่อ) ในช่วงกลางปี 2559 จะช่วยกระตุ้นความต้องการซื้อในตลาดให้เพิ่มขึ้น 30-40% โดยเฉพาะในกลุ่มคอนโดมิเนียม

"การเปิดขายที่อยู่อาศัยแนวรถไฟฟ้าก็เหมือนกับการขายฝัน ตราบใดที่ยังไม่มีการก่อสร้างผู้ซื้อก็ยังไม่มีความมั่นใจ แต่เมื่อใดที่โครงการเริ่มมีความคืบหน้าความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยก็จะ เพิ่มสูงขึ้นตามลำดับ กระทั่งโครงการก่อสร้างแล้วเสร็จและเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการ ความต้องการซื้อก็จะสูงขึ้นอย่างชัดเจน แต่การเพิ่มขึ้นของจำนวนคอนโดมิเนียมอย่างรวดเร็ว ทำให้พื้นที่แนวรถไฟฟ้าสายสีม่วงอยู่ในภาวะโอเวอร์ซัพพลาย ซึ่งวิธีการที่จะช่วยลดภาวะดังกล่าวคือ ภาครัฐต้องเร่งพัฒนาโครงการรถไฟฟ้าสายใหม่ๆ เพิ่มขึ้น เพื่อขยายอัตราการเจริญเติบโตสู่กรุงเทพฯ รอบนอก เนื่องจากที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่าพื้นที่ใดที่มีรถไฟฟ้าผ่าน ความเจริญของภาคอสังหาฯ ก็จะตามไปที่นั่น ถือเป็นการกระจายสินค้าใหม่ๆ ในตลาดสู่พื้นที่อื่นๆ" นายไตรเตชะ กล่าวและว่า

ปัจจุบันบริษัทมีโครงการตามแนวรถไฟฟ้าสายสีม่วงประมาณ 7-8 โครงการ ราคาขายเฉลี่ย 5 หมื่นบาทต่อตร.ม. อาทิ โครงการซิตี้โฮม รัตนาธิเบศร์, โครงการศุภาลัยปาร์ค แยกติวานนท์, โครงการศุภาลัยปาร์ค แคราย-งามวงศ์วาน ฯลฯ ซึ่งหลายโครงการก็ปิดการขายแล้ว และในจำนวนนี้มีโครงการที่อยู่ระหว่างการขายทั้งหมด 4 โครงการ รวมจำนวนประมาณ 1,000 หน่วย อัตราการขายเฉลี่ยอยู่ที่กว่า 50%

ด้าน นายวงศกรณ์ ประสิทธิ์วิภาต รองประธาน เจ้าหน้าที่กลุ่มพัฒนาธุรกิจ บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า รถไฟฟ้าสายสีม่วงเป็นเส้นที่เปิดให้บริการช้ากว่ากำหนด 2 ปี ทำให้ในช่วงระหว่างนั้นมีผู้ประกอบการเข้าไปพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยทั้งใน ส่วนของแนวราบและคอนโดมิเนียมในพื้นที่จำนวนมาก ส่งผลให้อัตราการดูดซับน้อยกว่าที่ควรจะเป็น แต่เมื่อภาครัฐประกาศชัดเจนถึงกำหนดการเปิดให้บริการรถไฟฟ้าสายสีม่วงก็ เชื่อว่ายอดขายจะกลับมาคึกคักอีกครั้งหนึ่ง ดูได้จากยอดขายของบริษัท อย่างโครงการ เมโทร สกาย ประชาชื่น ที่มียอดขายเพิ่มขึ้น 50-60% และโครงการ ไอคอนโด งามวงศ์วาน มียอดขายเพิ่มขึ้น 30-40% นับตั้งแต่มีข่าวการนำเข้าขบวนรถมาจากญี่ปุ่น

"พื้นที่สายสีม่วงถือเป็นพื้นที่ที่มีการแข่งขันของตลาดอสังหาฯ ที่หลากหลายทั้ง คอนโดมิเนียม บ้านเดี่ยว และทาวน์เฮาส์ เนื่องจากเส้นทางการเดินรถเป็นเส้นที่วิ่งจากนอกเมืองเข้าสู่ตัวเมือง โดยพื้นที่ในเมืองนับตั้งแต่สถานีบางซื่อถึงบริเวณก่อนข้ามสะพานพระนั่ง เกล้าจะเป็นตลาดคอนโดฯ แต่เมื่อข้ามสะพานไปแล้วจะเป็นตลาดของโครงการแนวราบ เนื่องจากราคาที่ดินยังสามารถพัฒนาได้" นายวงศกรณ์ กล่าว

ทั้งนี้ เพื่อเป็นการให้สอดรับกับการเปิดเดินรถไฟฟ้าสายสีม่วง บริษัทจึงมีแผนพัฒนา 4 โครงการใหม่ มูลค่าโครงการรวมประมาณ 3 พันล้านบาท ในปี 2559 แบ่งเป็น โครงการคอนโดมิเนียม 1 โครงการ และโครงการ แนวราบ 3 โครงการ บริเวณจุดตัดถนนราชพฤกษ์กับรัตนาธิเบศร์ โดยทั้งหมดมีการพัฒนาแล้ว

นายสุรเชษฐ กองชีพ รองผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย กล่าวว่า บริเวณแนวรถไฟฟ้าสายสีม่วง ปัจจุบันมีคอนโดมิเนียมเปิดขายอยู่ประมาณ 12,904 หน่วย โดยขายไปได้แล้วประ มาณ 65% และยังเหลือคอนโดมิเนียมที่อยู่ระหว่างการขายอีกประมาณ 4,516 หน่วย ซึ่งประมาณ 53% มีกำหนดแล้วเสร็จในปี 2560 ส่วนที่เหลือจะทยอยสร้างเสร็จในปี 2558 - 2559 และพื้นที่ตามแนวถนนกรุงเทพฯ - นนทบุรีเป็นทำเลที่มีโครงการคอนโดมิเนียมเปิดขายอยู่มากที่สุดคือมีจำนวนมากกว่า 5,829 หน่วย อัตราหน่วยเหลือขายอยู่ที่ประมาณ 45% รองลงมาคือตามแนวถนนรัตนาธิเบศร์อีกประมาณ 5,370 หน่วย อัตราหน่วยเหลือขายอยู่ที่ประมาณ 42%

ราคาขายเฉลี่ยของคอนโดมิเนียมในพื้นที่นี้อยู่ที่ประมาณ 67,000 บาทต่อตร.ม. โดยคอนโดมิเนียมในพื้นที่นี้มีราคาขายแตกต่างกันค่อนข้างมากคือ เริ่มต้นที่ประมาณ 35,000 บาทต่อตร.ม.ขึ้นไปถึงมากกว่า 140,000 บาท ต่อตร.ม. โดยโครงการที่ยังอยู่ในเขตกรุง เทพฯ จะมีราคาขายที่สูงกว่าโครงการที่อยู่ไกลออกไปในเขตจังหวัดนนทบุรี เนื่องจากที่ดินมีราคาสูงกว่า โดยราคาขายเฉลี่ยของโครงการที่อยู่ในเขตกรุงเทพฯอยู่ที่ประมาณ 78,500 บาทต่อตร.ม.และโครงการที่อยู่ในเขตจังหวัดนนทบุรีอยู่ที่ประมาณ 73,000 บาทต่อตร.ม.

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ

ลงประกาศขาย-เช่าฟรี คำนวณการขอสินเชื่อ

คุ้มค่าน่าอ่าน

ประกาศซื้อ-ขายมาใหม่

SHARE

Share Tweet Share
BanKumKa.Com เป็นเว็บไซต์ศูนย์กลางสำหรับซื้อ-ขายอสังหาริมทรัพย์ของประเทศไทย ด้วยข้อมูลที่พร้อมทั้งคอนโดมิเนียม บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ อาคารพาณิชย์ และที่ดิน ไม่ว่าจะเป็นโครงการใหม่หรือบ้านมือสอง อีกทั้งบทความและข่าวสารที่เกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ เพื่อให้คุณได้คัดสรรทรัพย์ที่ดีที่สุดได้ในเว็บไซต์ BanKumKa.com ที่เดียว
เว็บไซต์ BanKumKa.Com มีการเก็บ Cookies ซึ่งเป็นการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลและช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานเว็บไซต์ สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่หน้า นโยบายความเป็นส่วนตัว ยอมรับ