สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้านห่วงผู้ประกอบการรายเล็กแบกต้นทุนไม่ไหว มองแนวโน้มค่าแรง วัสดุก่อสร้างขยับขึ้น แนะเร่งสร้างแบรนด์ บริหารสภาพคล่อง
นายพิชิต อรุณพัลลภ นายกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน กล่าวว่า แม้ธุรกิจรับสร้างบ้านเป็นธุรกิจที่มีอัตราการขยายตัวไม่หวือหวา แต่ก็เชื่อว่าตลาดโดยรวมยังมีโอกาสขยายตัว เห็นได้จากประเภทที่อยู่อาศัยในตลาดบ้านสร้างเองมีราคาสูงขึ้นและตลาดใหญ่ขึ้น ประกอบกับทิศทางราคาเฉลี่ยต่อหลังของที่อยู่อาศัยในโครงการจัดสรรประเภทบ้านเดี่ยวในกรุงเทพฯ และปริมณฑลสูงขึ้น รวมถึงราคาที่ดินที่พุ่งสูงขึ้นในกรุงเทพฯ ซึ่งสะท้อนถึงโอกาสสำหรับการก่อสร้างที่อยู่อาศัยในตลาดบ้านสร้างเองบนที่ดินของผู้บริโภคจะมีมากขึ้น
"ตลาดบ้านสร้างเองมีการแข่งขันรุนแรงมาก ดังนั้นการให้ความสำคัญด้านการสร้างแบรนด์และการสร้างความน่าเชื่อถือควบคู่ ไปกับคุณภาพของงานให้แก่กิจการมีความสำคัญยิ่ง ในขณะเดียวกัน การบริหารสภาพคล่องทางการเงิน ยังเป็นความท้าทายที่สำคัญ โดยเฉพาะผู้ประกอบการรับสร้างบ้านขนาดกลางและขนาดเล็กที่มีข้อจำกัดด้านเงินทุนหมุนเวียน" นายพิชิต กล่าว
ทั้งนี้ รูปแบบการรับรายได้ของธุรกิจรับสร้างบ้านเป็นตามงวดงานดำเนินการก่อสร้าง ในขณะที่ต้นทุนการประกอบธุรกิจสูงขึ้น เช่น ค่าแรง วัสดุก่อสร้าง ฯลฯ อีกทั้งหากในช่วงที่เหลือของปี 2559 หรือปีถัดๆ ไปความคืบหน้างานก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐมีมากขึ้นและเดินไปตามแผน งานหรือนโยบายความต้องการใช้วัสดุก่อสร้างก็จะมีมากขึ้นตาม ผลที่ตามมาก็คือ ราคาวัสดุก่อสร้างอาจปรับเพิ่มสูงขึ้นหรืออาจเกิดปัญหาด้านเทคนิคสินค้าขาดตลาด เป็นต้นเหตุให้ต้นทุนสูงขึ้น และอาจส่งผลให้เผชิญกับปัญหาขาดสภาพคล่องได้
ดังนั้นการบริหารจัดการจำนวนคนงานและการสั่งซื้อวัสดุก่อสร้างที่เหมาะสม เพื่อควบคุมต้นทุนการก่อสร้าง รวมถึงการให้ความสำคัญกับการก่อสร้างอย่างรวดเร็วตามระยะเวลาที่กำหนด ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาการขาดสภาพคล่องและสร้างความน่าเชื่อถือให้แก่ตลาดผู้บริโภคได้
ที่มา : หนังสือพิมพ์คม ชัด ลึก