รายใหญ่แห่ผุดโครงการใหม่ ชี้ กทม.-ปริมณฑล ขยายตัว 17% แข่งหั่นราคาคอนโดฯชิงตลาด

1,633 Views เผยแพร่ 25 พ.ค. 59
รายใหญ่แห่ผุดโครงการใหม่ ชี้ กทม.-ปริมณฑล ขยายตัว 17% แข่งหั่นราคาคอนโดฯชิงตลาด

ธนาคารเกียรตินาคิน ชี้แนวโน้มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ระบุการการแข่งยังสูง โดยตลาดคอนโดมิเนียม ผู้ประกอบการยังนิยมใช้กลยุทธ์ด้านราคา เผยมีสินค้าใหม่เข้าสู่ระบบกว่า 6 หมื่นยูนิต โดยเฉพาะจากบริษัทขนาดใหญ่ ส่วนกลุ่มที่พักอาศัยให้เช่า อนาคตสดใส ทั้งโรงแรม อพาร์ทเมนท์ หลังได้อานิสงส์ยอด นักท่องเที่ยวต่างชาติพุ่ง และกลุ่มพนักงานบริษัทข้ามชาติ

ธนาคารเกียรตินาคิน ได้งานสัมมนาใหญ่ประจำปี KK Annual Seminar 2016 เพื่อลูกค้าสินเชื่อผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ โดยนางจิราภรณ์ ลินมณีโชติ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการสายงานวิจัย บริษัท หลักทรัพย์ภัทร จำกัด (มหาชน) กล่าวในงานสัมมนาว่า ปี 2558 ที่ผ่านมา ภาพรวม ของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไม่ได้คึกคักมากนัก มีการ เปิดตัวโครงการใหม่น้อยลง แต่พบว่ามูลค่าของการเปิดตัว เพิ่มสูงขึ้น แสดงให้เห็นถึงการขยับขึ้นของราคา และการปรับตลาดไปในสินค้าที่มีราคาสูง

ทั้งนี้ในปี 2559 นี้ ผู้ประกอบการรายใหญ่ได้มีการเตรียมโครงการที่จะเปิดตัวไว้เป็นจำนวนมาก ซึ่ง จากการสำรวจข้อมูลบริษัทอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ 7 แห่งที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ (พฤกษา, แลนด์แอนด์เฮ้าส์, แสนสิริ, เอพี, แอล.พี.เอ็น., ศุภาลัย และคิวเฮ้าส์) พบว่า ในส่วนของซัพพลายใหม่ คาดว่าจะเพิ่มขึ้นจากปีก่อนราว 30% มาอยู่ที่ 65,000 ยูนิต โดยเป็นคอนโดมิเนียมราว 60% และ บล. ภัทร ประเมินว่าตลาด ที่อยู่อาศัยในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล จะขยายตัวประมาณ 17% หรือมีมูลค่าประมาณ 274,000 ล้านบาท การเติบโตดังกล่าวจะมาจากการเปิดตัวใหม่ของโครงการคอนโดมิเนียม ซึ่งในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา (มกราคมเมษายน 2559) มีคอนโดมิเนียมเปิดใหม่รวม 13,500 ยูนิต คิดเป็นมูลค่าราว 45,000 ล้านบาท นอกจากนี้ การเปิดตัวคอนโดมิเนียมใหม่จะมีมากในช่วงครึ่งหลังของปี

"ปีนี้ตลาดคอนโดมิเนียมจะมีการแข่งขันสูง โดยเฉพาะกลุ่มผู้ประกอบการรายใหญ่ ซึ่งอาจจะเห็นการแข่งขันการปรับลดราคาคอนโดมีเนียมและโปรโมชั่นส่วนลดต่างๆ เพื่อระบายคอนโดมิเนียมที่สร้างเสร็จและรอการขาย ซึ่งมีอยู่เป็นจำนวนมาก ขณะที่ผู้ประกอบการ อสังหาริมทรัพย์รายกลางและเล็กยังมีโอกาส แต่ต้องเน้นแข่งขันในแนวราบ คือ บ้านเดี่ยวและทาวน์เฮ้าส์ที่ยังมีอัตราการเติบโต โดยในไตรมาสที่ 1 ที่ผ่านมา ยอดขายที่อยู่อาศัยแนวราบขยายตัว 5-6% เมื่อเทียบกับปีก่อน สวนทางกับตลาดคอนโดมิเนียมที่ชะลอลง"

ด้าน นายปิยศักดิ์ มานะสันต์ ผู้อำนวยการอาวุโส หัวหน้าฝ่ายวิจัยเศรษฐกิจและอุตสาหกรรม ธนาคารเกียรตินาคิน กล่าวว่า ตลาดที่อยู่อาศัยเพื่อการเช่า ยังคง ขยายตัวดีในปีนี้ ตามการขยายตัวดีของภาคบริการ การท่องเที่ยว โดยลูกค้ากลุ่มหลัก จะเป็นนักท่องเที่ยวชาวจีน และแรงงานภาคบริการที่ย้ายเข้ามาในเมืองใหญ่ และนักเรียน นักศึกษา รวมทั้งการเปิดเออีซี ทำให้นักลงทุนในอาเซียนเข้ามาอยู่อาศัยในไทย มากขึ้น เพราะไทยนับเป็นศูนย์กลาง ด้านเศรษฐกิจของเออีซี บวกกับ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน โดยเฉพาะการก่อสร้างรถไฟฟ้า จะทำให้ตลาดเช่าซื้อที่อยู่อาศัยขยายตัวดีขึ้น โดยจังหวัดที่มีศักยภาพสำหรับตลาดที่อยู่อาศัยเพื่อการเช่ามี 18 จังหวัด เช่น ภูเก็ต เชียงใหม่ ชลบุรี (พัทยา)

ขณะเดียวกันธุรกิจเซอร์วิสอพาร์ทเมนท์มีแนวโน้มขยายตัวดี โดยเฉพาะ เกรด บี มีอัตราการเข้าพักเพิ่มขึ้นที่ 4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีอัตราการเข้าพักที่ 93% ขณะที่ เกรด เอ มีอัตราการเข้าพักทรงตัวที่ 94% ทำให้มีห้องพัก สะสมเพิ่มขึ้น 4.2% โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีรถไฟฟ้าผ่าน

ด้าน นายพิพัฒน์ เหลืองนฤมิตรชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท หลักทรัพย์ภัทร จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า อัตราการขยายตัวเศรษฐกิจไทยในปีนี้ค่อยๆ ฟื้นตัว คาดว่า เติบโต 2.8% ต่อปี ขยายตัวต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตที่โต 4.3% ต่อปี และต่ำกว่าประเทศในอาเซียนที่ขยายตัว 4-5% โดยปัจจัยสนับสนุนคือภาคการท่องเที่ยวที่มีแนวโน้มขยายตัวสูงต่อเนื่อง โดยคาดว่ามีจำนวนนักท่องเที่ยว 32.4 ล้านคน และการใช้จ่ายภาครัฐ โดยเฉพาะ การลงทุนที่คาดว่าโต 10%

ส่วนปัจจัยเสี่ยงต่อเศรษฐกิจไทยในปีนี้ คือการส่งออกที่ฟื้นตัวต่ำ จากความสามารถในการแข่งขันของไทยที่ลดลง และเศรษฐกิจโลกที่ยังฟื้นตัวไม่เต็มที่ คาดว่าการส่งออกปีนี้หดตัว 0.7% ซึ่งก็ดีขึ้นกว่าปีก่อนที่หดตัว 5.8% ส่วนการนำเข้าหดตัว 4.4% โดยเฉพาะการนำเข้าวัตถุดิบ และสินค้าทุน ขณะที่การบริโภคเอกชนกดดันจากภาระหนี้ภาคครัวเรือน และรายได้เกษตรกรที่ตกต่ำจากปัญหาภัยแล้ง รวมทั้งสถานการณ์การเมืองต้องจับตาเช่นกัน ส่วนแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยยังต่ำต่อเนื่อง โดยคาดว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน ยังคงดอกเบี้ยที่ 1.50% ตลอดปีนี้ แต่หากเศรษฐกิจไทยอ่อนแอลงกว่า ที่คาด กนง. อาจจะลดดอกเบี้ยเพื่อดูแลเศรษฐกิจได้

สำหรับในปี 2560 แนวโน้มเศรษฐกิจจะขยายตัว ได้ 3.2 โดยเป็นผลมาจากการลงทุนภาครัฐจะสูงถึง 7.5% ขณะที่การส่งออกจะกลับมาขยายตัวที่ 0.5% และจำนวนนักท่องเที่ยวจะเพิ่มขึ้นถึง 34.5 ล้านคน ส่วนอัตราดอกเบี้ยนโยบายมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นมาอยู่ที่ 2%

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

ลงประกาศขาย-เช่าฟรี คำนวณการขอสินเชื่อ

คุ้มค่าน่าอ่าน

ประกาศซื้อ-ขายมาใหม่

SHARE

Share Tweet Share
BanKumKa.Com เป็นเว็บไซต์ศูนย์กลางสำหรับซื้อ-ขายอสังหาริมทรัพย์ของประเทศไทย ด้วยข้อมูลที่พร้อมทั้งคอนโดมิเนียม บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ อาคารพาณิชย์ และที่ดิน ไม่ว่าจะเป็นโครงการใหม่หรือบ้านมือสอง อีกทั้งบทความและข่าวสารที่เกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ เพื่อให้คุณได้คัดสรรทรัพย์ที่ดีที่สุดได้ในเว็บไซต์ BanKumKa.com ที่เดียว
เว็บไซต์ BanKumKa.Com มีการเก็บ Cookies ซึ่งเป็นการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลและช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานเว็บไซต์ สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่หน้า นโยบายความเป็นส่วนตัว ยอมรับ