ลลิล อัดโปรฯ-โครงการใหม่รับตลาดชะลอหลังหมดมาตรการ

2,216 Views เผยแพร่ 4 เม.ย 59
ลลิล อัดโปรฯ-โครงการใหม่รับตลาดชะลอหลังหมดมาตรการ

ลลิลฯ เตรียมแผนรับมือภาวะตลาดอสังหาฯ ชะลอตัวหลังหมดมาตรการ เร่งอัดโปรโมชัน ออกแคมเปญการตลาด เปิดโครงการใหม่หวัง กระตุ้นยอดขาย เผยไตรมาสแรกยอดขายโต 20% เชื่ออสังหาฯปี 59 ยังโตได้ 5-10%

นายชูรัชฏ์ ชาครกุล กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ LALIN กล่าวถึงแนวโน้มตลาดอสังหาริมทรัพย์ในไตรมาส 2 ว่า ตลาดจะเกิดภาวะการชะลอตัว โดยเฉพาะหลังช่วงเดือน เม.ย. ซึ่งมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ด้วยการลดหย่อนค่าธรรมเนียมการโอนและการจดจำนองที่จะสิ้นสุดลง ซึ่งมาตรการได้ดึงกำลังซื้อล่วงหน้าไปจำนวนมาก ดังนั้นบริษัทจึงได้เตรียมแผนการดำเนินงานไว้รองรับภาวะตลาดที่คาดว่าจะเกิดขึ้น โดยจะเร่งการสร้างยอดขาย โดยเฉพาะในช่วงโค้งสุดท้ายของมาตรการ ทั้งการจัดโปรโมชันอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา รวมถึงการเปิดตัวโครงการใหม่ เพื่อกระตุ้นยอดขายในปีนี้ให้เป็นไปตามเป้าหมาย

ส่งผลให้ในไตรมาส 1 บริษัทสามารถ ทำยอดขายได้มากกว่าเป้าหมาย 20% จากเป้าหมายที่ตั้งไว้ 840 ล้านบาท หรือคิดเป็น 30% ของยอดขายรวมในปีนี้ที่ตั้งไว้ 2,800 ล้านบาท ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากอานิสงส์มาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ของภาครัฐที่ทำให้ลูกค้ามีการตัดสินใจซื้อเร็วขึ้นกว่าปกติ โดยเฉพาะโครงการแนวราบที่ได้รับผลบวกจากมาตรการค่อนข้างมาก อีกทั้งอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับต่ำ ส่งผลบวกต่อการตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัย รวมถึงการที่บริษัทได้เปิดโครงการแนวราบใหม่ในไตรมาสแรก 1 โครงการ มูลค่า 800 ล้านบาท ปัจจัยเหล่านี้ล้วนส่งผลให้สามารถทำยอดขายได้เกินเป้าหมายที่วางเอาไว้ในไตรมาสแรก

ส่วนในไตรมาส 2 บริษัทเตรียมเปิด โครงการแนวราบใหม่อีก 2 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 800-900 ล้านบาท จากแผนทั้งปี 2559 เปิดโครงการแนวราบ 8 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 4,000 ล้านบาท ปัจจุบันมีที่ดินรองรับแล้ว 4 แปลง ซึ่งปีนี้บริษัทตั้งงบซื้อที่ดินไว้ที่ 800-1,000 ล้านบาท รองรับการพัฒนาในปีนี้และอนาคต

ปัจจุบันบริษัทมียอดขายรอโอน (Backlog) ประมาณ 750 ล้านบาท โดยจะมีการโอนในปีนี้ทั้งหมด ซึ่งบริษัทตั้งเป้า รับรู้รายได้ในปีนี้ไว้ที่ 2,400 ล้านบาท เพิ่มขึ้น จากปีก่อนที่ทำได้ 2,009 ล้านบาท โดยรายได้ที่เข้ามาในปีนี้จะมาจากโครงการแนวราบเป็นส่วนใหญ่ หรือมีสัดส่วนรายได้จากโครงการแนวราบในปีนี้อยู่ที่ 95% และส่วนที่เหลืออีก 5% เป็นคอนโดมิเนียม ส่วนกำไรในปีนี้ก็คาดว่าจะเติบโตในทิศทาง เดียวกับรายได้ บริษัทมีคอนโดฯเหลือขาย 100 ยูนิต ก็คาดว่าจะขายหมดได้ภายในปีนี้

นายชูรัชฏ์ กล่าวต่อว่า สำหรับการลงทุนโครงการคอนโดมิเนียมนั้น คงต้องดูโอกาสและภาวะตลาดอย่างใกล้ชิด เพราะขณะนี้ในหลายทำเลอยู่ในภาวะโอเวอร์ซัพพลาย แม้ว่าจะดีมานด์จะมีอยู่ แต่กำลังซื้อยังมีปัญหาจากหนี้ครัวเรือน และปัจจุบันบริษัท ยังมีสต๊อกคอนโดมิเนียมเหลือขายอยู่ 100 ยูนิต มูลค่า 120-130 ล้านบาท ส่วนยอดปฏิเสธสินเชื่อของบริษัทในปีนี้คาดว่าจะทรงตัวในระดับเดียวกันกับปี ก่อน ที่ 20-25% แต่เพิ่มขึ้นจากปี 2557 ที่ระดับ 15-18% เนื่องจากหนี้สินครัวเรือนเพิ่มขึ้น โดยบริษัท ได้แก้ปัญหาด้วยการร่วมเป็นพันธมิตรกับธนาคารพาณิชย์และตรวจสอบคุณสมบัติ ลูกค้าในเบื้องต้นก่อนยื่นกู้สถาบันการเงิน เพื่อทำให้อัตราการปฏิเสธสินเชื่อลดลง

ส่วนภาพรวมตลาดอสังหาฯ ในปีนี้ ยังเชื่อว่าเติบโตได้ 5-10% แม้ว่าล่าสุดธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะปรับลดประมาณการการขยายตัวทางเศรษฐกิจไทย (จีดีพี) เหลือขยายตัว 3.1% จากเดิมที่ขยายตัว 3.5% โดยปกติตลาดอสังหาริมทรัพย์จะขยายตัว 1.5-2 เท่าของจีดีพี ซึ่งในช่วงต้นปี ตลาดอสังหาริมทรัพย์จะยังขยายตัวได้มากจากมาตรการของภาครัฐเป็นปัจจัยหนุน แต่จะเริ่มชะลอตัวลงหลังหมดมาตรการ ซึ่งผู้ประกอบการเองได้เตรียมแผนไว้รองรับด้วยการออกโปรโมชันมาเพื่อกระตุ้นยอดขายมากขึ้น รวมไปถึงการเปิดโครงการ ใหม่ๆ ที่จะเริ่มเปิดตัวมากในครึ่งปีหลัง ซึ่งจะทำให้ตลาดอสังหาฯยังขยายตัวได้

 

ที่มา : ผู้จัดการรายวัน 360 องศา

ลงประกาศขาย-เช่าฟรี คำนวณการขอสินเชื่อ

คุ้มค่าน่าอ่าน

ประกาศซื้อ-ขายมาใหม่

SHARE

Share Tweet Share
BanKumKa.Com เป็นเว็บไซต์ศูนย์กลางสำหรับซื้อ-ขายอสังหาริมทรัพย์ของประเทศไทย ด้วยข้อมูลที่พร้อมทั้งคอนโดมิเนียม บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ อาคารพาณิชย์ และที่ดิน ไม่ว่าจะเป็นโครงการใหม่หรือบ้านมือสอง อีกทั้งบทความและข่าวสารที่เกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ เพื่อให้คุณได้คัดสรรทรัพย์ที่ดีที่สุดได้ในเว็บไซต์ BanKumKa.com ที่เดียว
เว็บไซต์ BanKumKa.Com มีการเก็บ Cookies ซึ่งเป็นการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลและช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานเว็บไซต์ สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่หน้า นโยบายความเป็นส่วนตัว ยอมรับ