นายณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SC เปิดเผยว่า ภาพรวมผลประกอบการของบริษัทในช่วง 9 เดือนแรกปี 2558 มีการเติบโตที่โดดเด่น โดยมียอดขายรวม 8,284 ล้านบาท เติบโต 36% จากปี 2557 ส่วนรายได้รวมอยู่ที่ 9,058 ล้านบาท เติบโต 10% จากปี 2557
ทั้งนี้ เป็นรายได้จากการดำเนินงาน 9,030 ล้านบาท ที่มาจาก 2 ธุรกิจหลัก คือ ธุรกิจพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย คิดเป็นสัดส่วน 93% ที่เหลือเป็นรายได้จากธุรกิจอาคารสำนักงานให้เช่าและบริการ คิดเป็นสัดส่วน 7% มีกำไรขั้นต้น 36.9% และมีกำไรสุทธิ 1,068 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14% จากปี 2557 โดย ณ วันที่ 30 กันยายน 2558 มียอดขาย ที่รอรับรู้เป็นรายได้ (Backlog) อยู่ที่ 8,680 ล้านบาท ซึ่งจะรับรู้เข้ามาเป็นรายได้ในปี 2558 นี้ประมาณ 20% และที่เหลือรอรับรู้รายได้ในอีก 3 ปีข้างหน้า
"ตลาดในครึ่งปีแรกเติบโตได้ดี โดยเฉพาะบ้านเดี่ยวระดับราคามากกว่า 15 ล้านบาทขึ้นไปของบริษัทนั้น มีส่วนแบ่งตลาด 35% และเป็นอันดับ 1 ซึ่งเป็นรายได้เท่ากับ 2,474 ล้านบาท เติบโตมากกว่า 40% เมื่อเทียบกับ ปี 2557 จึงมั่นใจว่ายังรักษาความเป็นผู้นำอันดับ 1 ของ ตลาดบ้านเดี่ยวราคา 15 ล้านบาทขึ้นไปตลอด 5 ปีนี้ได้ และมั่นใจในสถานการณ์ตลาดบ้านหรูว่ายังเติบโต สำหรับในไตรมาส 3 ตลาดมีการชะลอลงเล็กน้อย และเริ่มกลับมาคึกคักในไตรมาส 4 โดยมีสัญญาณที่ดีมาจากยอดขาย โครงการแนวราบในเดือนตุลาคมประมาณ 1,200 ล้านบาท เติบโตกว่าเดือนกันยายนถึง 85% ซึ่งมีผลมาจากแคมเปญ การตลาด Knock-Out Price และมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์จากรัฐบาล" นายณัฐพงศ์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม ในไตรมาส 4 นี้ได้เริ่ม มีการโอนห้องชุดโครงการ "เซ็นทริค ซี พัทยา" ราคาเริ่มต้น 1.99 ล้านบาท และเปิดใหม่ 3 โครงการ มูลค่ารวม 7,000 ล้านบาท คือ "แชมเบอร์ส ชาน ลาดพร้าว-วังหิน" เป็นคอนโดมิเนียม มูลค่าโครงการ 930 ล้านบาท ราคาเริ่ม 2 ล้านบาทขึ้นไป และอีก 2 โครงการ เป็นคฤหาสน์หรู คือ "แกรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ด ราชพฤกษ์-จรัญฯ" มูลค่าโครงการ 3,200 ล้านบาท ราคาเริ่มต้น 30 ล้านบาท และ "แกรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ด สุขุมวิท" มูลค่า โครงการ 2,800 ล้านบาท ราคาเริ่มต้น 35 ล้านบาท
ที่มา : หนังสือพิมพ์แนวหน้า



