ครม. เห็นชอบให้ออกร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี 2 ฉบับ เป็นกฎหมายบังคับเวนคืนที่ดิน 549 แปลงเพื่อใช้สร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียวในพื้นที่ "จตุจักร-บางเขน-หลักสี่-สายไหมดอนเมือง-ลำลูกกา" หวั่นเจรจากับเจ้าของเดิมไม่สำเร็จ บริษัทเอกชนเริ่มลงมือไม่ทันกำหนดจนโครงการล่าช้าเกิดความเสียหาย

เมื่อวันที่ 12 พ.ค. พล.ต.สรรเสริญ  แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุม ครม. เห็นชอบให้ออกร่างประกาศสำนักนายกฯ 2 ฉบับเรื่องเวนคืนอสังหาริมทรัพย์เพื่อทำโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต หลังจากการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ลงนามในสัญญาก่อสร้างกับเอกชนไปแล้วและจะเริ่มเข้าพื้นที่ก่อสร้างในเดือน พ.ค. 58 นี้ แต่ติดปัญหาเรื่องการเวนคืนที่ดินไม่ครบเพราะยังมีที่ดินต้องเวนคืนอีกกว่า 549 แปลงที่ต้องทยอยส่งมอบพื้นที่ให้เอกชนหลังเริ่มงานก่อสร้าง 150 วัน จึงจำเป็นต้องอาศัยการเจรจาและใช้อำนาจออกกฎหมายบังคับใช้ เพื่อให้ส่งมอบพื้นที่ได้ทันกำหนด

สำหรับการเวนคืนพื้นที่ตามโครงการดังกล่าว แบ่งเป็นตั้งแต่ท้องที่ เขตจตุจักร, เขตบางเขน, เขตหลักสี่, เขตสายไหม, เขตดอนเมือง ในกรุงเทพฯ และ อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ซึ่งถือเป็นกรณีที่มีความจำเป็นเร่งด่วนและประกาศกำหนดให้เข้าใช้ อสังหาริมทรัพย์เพื่อกิจการขนส่งมวลชนตามพื้นที่ที่ประกาศเวนคืนทั้งหมด เพื่อ ให้เจ้าหน้าที่หรือผู้ที่รับมอบหมายจากเจ้าหน้าที่ ที่มีอำนาจวางเงินค่าทดแทนเข้าครอบครองหรือใช้อสังหาริมทรัพย์และส่งมอบ พื้นที่ให้ทันตามกำหนด

ทั้งนี้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีแสดงความเห็นว่า กฎหมายทั้ง 2 ฉบับมีความจำเป็นตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอจึงเสนอให้ ครม. เห็นชอบ จากนั้นจะส่งให้คณะกรรม การตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอ ครม.พิจารณาและให้ดำเนินการต่อตามขั้นตอนต่อไปได้  ขณะที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเห็นควรว่าเรื่องดังกล่าวมีความจำเป็นเร่งด่วนสามารถเสนอให้ ครม. เห็นชอบได้ตามขั้นตอน

นอกจากนี้ ครม. ยังอนุมัติในหลักการร่างประกาศสำนักนายกฯ เรื่องกำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ในท้องที่ ต.ชัยบุรี อ.เมืองพัทลุง จ.พัทลุง เป็นกรณีจำเป็นเร่งด่วนเพื่อสร้างสะพานข้ามทางรถไฟบริเวณ ทางหลวงชนบท พท.4009 ด้วย