กทม. ลุยสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียว เชื่อม บางหว้า-ตลิ่งชัน เร่งปรับผังเมืองใหม่-พลิกโฉมฝั่งธนบุรี งบ 13,763 ล้านบาท คาดเปิดใช้งานปี 2563

ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) พร้อมคณะ นำสื่อมวลชนลงพื้นที่ตรวจแนวเส้นทางโครงการระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพมหานคร ส่วนต่อขยายสายสีลม ตอนที่ 3 (บางหว้า-ตลิ่งชัน) โดย ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ระบุว่า โครงการระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพมหานคร ส่วนต่อขยายสายสีลม ตอนที่ 3 (บางหว้า-ตลิ่งชัน) จัดทำขึ้นเพื่อเติมเต็มโครงข่ายการเดินทางพื้นที่กรุงเทพฯ ฝั่งตะวันตกให้สมบูรณ์  โดยมี พื้นที่โครงการอยู่ในเขตตลิ่งชัน และเขตภาษีเจริญ ซึ่งปัจจุบันมีหมู่บ้านจัดสรร ศูนย์อาหารร้านค้ากระจายอยู่เต็มพื้นที่ แต่ยังขาดระบบขนส่งมวลชนในการเชื่อมต่อการเดินทาง ทำให้ประชาชนต้องเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนบุคคล จึงเกิดปัญหาการจราจรติดขัดบนถนนราชพฤกษ์ โดยเฉพาะช่วงชั่วโมงเร่งด่วนและวันหยุดหากมีการต่อขยายรถไฟฟ้าจากสถานีบาง หว้ามาถึงตลิ่งชัน จะช่วยบรรเทาปัญหาการจราจรฝั่งธนบุรีได้อย่างดี

จากนั้น ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ เดินทางต่อไปยังจุดเชื่อมต่อการเดินทางบริเวณชั้น 3 ชานชาลาสถานีรถไฟฟ้าบางหว้า และโดยสารรถบีอาร์ที ไปตามแนวเส้นทางโครงการพร้อมอธิบาย รูปแบบการก่อสร้างโครงการ ชมตำแหน่งที่ตั้งของแต่ละสถานี โดยได้แวะลงบริเวณพื้นที่ว่างระหว่างสถานีตลิ่งชันของรถไฟฟ้าสายสีเขียว (บางหว้า-ตลิ่งชัน) และสถานีตลิ่งชันของรถไฟฟ้าสายสีแดง (บางซื่อ-ตลิ่งชัน)

ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ระบุว่า ผังเมืองฉบับปัจจุบันจะหมดอายุในปี 2561 ทำให้กทม.มีแนวคิดที่จะเสนอให้ปรับการใช้ประโยชน์ที่ดินของผังเมืองฉบับใหม่ ในพื้นที่เขตตลิ่งชันและภาษีเจริญ ให้เป็นที่ดินเชิงพาณิชยกรรมและที่อยู่อาศัยหนาแน่นมากขึ้น โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่รอบสถานีรถไฟฟ้า ซึ่งจะช่วยให้มีการเติบโตของอสังหาริมทรัพย์ตามแนวเส้นทาง

ส่วนพื้นที่รอบนอกห่างจากสถานีจะยังรักษาให้เป็นพื้นที่เชิงอนุรักษ์ไว้เช่นเดิม เนื่องจากพื้นที่เขตภาษีเจริญและตลิ่งชันยังมีแหล่งโบราณสถานและสถานที่ท่อง เที่ยวที่สำคัญ อาทิ วัดปากน้ำภาษีเจริญ ตลาดน้ำ วัดนิมมานรดี วัดปราสาททอง วัดทอง ตลาดน้ำ ตลิ่งชัน ตลาดน้ำคลองลัดมะยม

แหล่งข่าวจากกทม. เปิดเผยว่า จากผลการศึกษาได้คัดเลือกจุดเริ่มต้นบริเวณจุดเชื่อมต่อกับโรงจอดรถปัจจุบัน ของรถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนต่อขยายสายสีลมตอนที่ 2 ตากสิน-เพชรเกษม ที่บริเวณบางหว้า แล้ววิ่งไปทางทิศเหนือตามแนวถนนราชพฤกษ์ โดยใช้พื้นที่เกาะกลางถนน มีความกว้างเกาะกลางประมาณ 5-5.5 เมตร ผ่านทางแยกตัดผ่านถนนบางแวก ซอยจรัญสนิทวงศ์ 13 ผ่านทางแยกตัดถนนพรานนก-พุทธมณฑลสาย 4

จากนั้นจะยกระดับข้ามทางแยกตัดถนนบรมราชชนนี และยกระดับเพื่อข้ามทางด่วนกาญจนาภิเษก ซึ่งกำลังก่อสร้างตามแนวเขตทางรถไฟ และสิ้นสุดที่บริเวณปากทาง เข้าซอยราชพฤกษ์ 24 มีสถานีจำนวน 6 สถานี ประกอบด้วย สถานีบางแวก สถานีบางเชือกหนัง สถานีบางพรม สถานีอินทราวาส สถานีบรมราชชนนี และสถานีตลิ่งชัน รวมระยะทาง 7.5 กิโลเมตร

"สำหรับมูลค่าเงินลงทุนรวมเบื้องต้นของโครงการนี้ประมาณ 13,763 ล้านบาท แบ่งเป็นค่างานโยธา จำนวน 10,046 ล้านบาท ค่าติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณและโทรคมนาคม จำนวน 3,019 ล้านบาท และค่าบริการทางวิศวกรรมจำนวน 698 ล้านบาท ซึ่งตามแผนการดำเนินงาน หากเริ่มก่อสร้างในปี 2561 จะแล้วเสร็จในปี 2563 จากการคาดการณ์ปริมาณผู้โดยสารในปี 2564 จะมีประมาณ 87,612 คนต่อวัน จะช่วยบรรเทาการจราจรฝั่งธนบุรีและเปิดพื้นที่การพัฒนาเชิงพาณิชย์แห่งใหม่ได้" แหล่งข่าวระบุ