นายสิทธิพร สุวรรณสุต นายกสมาคมไทยรับสร้างบ้าน เผยว่าตลาดรับสร้างบ้าน 2 เดือนแรก ที่ผ่านมา (มค.-ก.พ. 2559) มีสัญญาณฟื้นตัวดีขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกับปีที่แล้ว แต่ยอมรับว่ายังน่าเป็นห่วงในระยะถัดไป ด้วยเพราะไม่มีปัจจัยบวกใดๆ มาสนับสนุนความเชื่อมั่นผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นมาตรการกระตุ้นจากภาครัฐ และปัจจัยทางเศรษฐกิจก็ยังส่อแววไม่ฟื้นตัวจริง แต่ภาพการฟื้นตัวของตลาดรับสร้างบ้านที่เห็นอาจเป็นไปได้ว่า กลุ่มผู้ประกอบการรับสร้างบ้านเอง มีการจัดกิจกรรมการตลาดกันคึกคักมากขึ้น และก็ถือว่าประสบความสำเร็จในแง่การ กระตุ้นความต้องการของผู้บริโภคที่อั้นมานาน
อย่างไรก็ดี แนวโน้มเศรษฐกิจในปีนี้ที่ยังทรงตัว หรือชะลอตัว อาจส่งผลให้กำลังซื้อใหม่ชะลอตัวตามกัน ขณะที่รัฐบาลเองก็มีมาตรการสนับสนุนเฉพาะบ้านจัดสรรเป็นหลัก ดังนั้น ผู้ประกอบการคงต้องปรับตัวเองอย่างมาก เพื่อจะประคองตัวให้ผ่านพ้นสถานการณ์ยากลำบากปี 2559 นี้ไปให้ได้
ปี 2559 นี้ สมาคม ประเมินว่า ปริมาณ "บ้านสร้างเอง" ทั่วประเทศมีจำนวนประมาณ 8 หมื่นหน่วย โดยประชาชนที่มีแนวโน้มเลือกใช้บริการผู้ประกอบการ "รับสร้างบ้าน" คาดว่ามีสัดส่วน 18-20% หรือประมาณ 1.5-1.6 หมื่นหน่วย ส่วนที่เหลือ 80% ยังคงใช้บริการผู้รับเหมาทั่วไปและรายย่อย โดยแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มหลักๆ คือ กลุ่มประชาชนที่สร้างบ้านราคาไม่เกิน 1.5 ล้านบาท ซึ่งมีจำนวนมากที่สุดและส่วนใหญ่อยู่ในต่างจังหวัด กลุ่มนี้บริษัทรับสร้างบ้านส่วนใหญ่ไม่สามารถให้บริการได้ เพราะมูลค่าต่อหน่วยต่ำและไม่คุ้มค่าดำเนินการ อีกกลุ่มได้แก่ ผู้บริโภคที่มีแนวโน้มเลือกว่าจ้างบริษัทสถาปนิกออกแบบ โดยเมื่อออกแบบเสร็จแล้วผู้รับเหมาก็จะประมูลราคาแข่งขันกัน บริษัทรับสร้างบ้านส่วนใหญ่จะไม่นิยมร่วมประมูลงานลักษณะนี้
สำหรับแนวทางการปรับตัวที่ผู้ประกอบการควรหันมาให้ความสำคัญ ได้แก่ การหาทางลดต้นทุนที่เกิดจากความผิดพลาดเสียหายของงานก่อสร้าง เช่น หันมาใช้ระบบก่อสร้างกึ่งสำเร็จรูปหรือผลิตในโรงงานมากขึ้น ฯลฯ รวมถึงการสร้างมูลค่าเพิ่มสินค้าและบริการ เช่น สร้างนวัตกรรมหรือบริการใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์และโดนใจผู้บริโภค หรือการพัฒนาซัพพลายเชน เพื่อนำเสนอบริการลูกค้าได้แบบเป็นแพ็กเกจเดียวกัน หรือแม้แต่การพัฒนาเป็นระบบแฟรนไชส์ ก็ถือว่าเป็นการปรับตัวและสร้างมูลค่าเพิ่มได้เช่นกัน ฯลฯ เป็นต้น ทั้งนี้ หากว่าผู้ประกอบการไม่มีการ ปรับตัวใดๆ แนวทางการแข่งขันก็คงไม่อาจหลีกหนีการแข่งขันราคา ซึ่งสวนทางกับลักษณะธุรกิจรับสร้างบ้านที่จุดขายไม่ใช่ราคาต่ำ แต่คือ คุณภาพการบริการ และความคิดสร้างสรรค์
ที่มา : หนังสือพิมพ์แนวหน้า