นายกิตติพล ปราโมช ณ อยุธยา กรรมการ ผู้จัดการ บริษัท สัมมากร จำกัด (มหาชน) หรือ SAMCO เปิดเผยว่า ในช่วงไตรมาส 2 ปีนี้ ยอดขายของบริษัทฯ ยังคงได้ผลกระทบจากปัญหาเศรษฐกิจ กำลังซื้อของลูกค้าที่ลดลง และปัญหาการชะลอตัวของตลาดอสังหาฯ ทำให้ยอดขายไม่ดีเท่าที่ควร อย่างไรก็ตามบริษัทฯ ได้ปรับลดประมาณการยอดขายของปีนี้จาก 1,300 ล้านบาทเหลือ 1,150 ล้านบาท ซึ่งบริษัทน่าจะทำยอดขายได้ตามเป้าหมายใหม่ดังกล่าวไม่ยาก

ทั้งนี้แม้ว่าบริษัทฯ จะมีการปรับลดเป้ายอดขายของปีนี้ลงมาอยู่ที่ 1,150 ล้านบาท แต่มั่นใจว่าจะมียอดรายได้รวมที่ 1,800 ล้านบาทตามเป้าที่วางไว้ หรือมีรายได้รวมเติบโตจากปีก่อนหน้าซึ่งมียอดโอนอยู่ที่ 903 ล้านบาท 70-80% เนื่องจากปีนี้จะมียอดโอนจากคอนโดเข้ามาเพิ่ม 500 ล้านบาท และมีรายได้จากค่าเช่าประมาณ 250 ล้านบาท ส่วนที่เหลือจะมาจากการโอนบ้านแนวราบ 1,050 ล้านบาท

โดยยอดโอนในส่วนของคอนโดจะมาจากโครงการสัมมากร เอสเก้า คอนโดมิเนียมสูง 8 ชั้น 4 อาคาร จำนวน 655 ยูนิต มูลค่า 1,100 ล้านบาท บนพื้นที่ 6-2-86.1 ไร่ ซึ่งขณะนี้มียอดขายแล้ว 70% และคาดว่าสิ้นปีนี้ยอดขายจะไม่ต่ำกว่า 80% โดยจะเริ่มทยอยโอนห้องชุดในโครงการดังกล่าวได้ในไตรมาส 3-4 ของปีนี้ ประมาณ 500 ล้านบาท ส่วนที่เหลือทยอยโอนปี 59 อย่างไรก็ตามคาดว่าจะต้องใช้เวลาในการปิดการขายโครงการอีก 1 ปี

"จุดเด่นของโครงการสัมมากร เอสเก้า คอนโดมิเนียม คือชื่อเสียงที่สั่งสมมายาวนานของสัมมากรในด้านคุณภาพการสร้างที่อยู่อาศัย ประกอบกับอยู่ในทำเลที่ดีที่สุด ตั้งอยู่บนถนนรัตนาธิเบศร์ ตัดกับถนนราชพฤกษ์ ห่างจากสถานีรถไฟฟ้าบางรักใหญ่เพียง 100 เมตร อยู่ในแหล่งชุมชน พร้อมด้วยการออกแบบที่เรียบง่ายแต่ดูทันสมัย และราคาที่คุ้มค่าต่อการลงทุน จึงเป็นผลให้สามารถปิดการขายไปแล้วเกือบ 70% ซึ่งด้วยปัจจัยบวกของทำเลที่ตั้งที่มีศักยภาพ คาดว่าสามารถปรับเพิ่มราคาขายได้อีก 5% เมื่อรถไฟฟ้าสายสีม่วงเริ่มเปิดดำเนินการภายในปี 59"

อย่างไรก็ตาม สำหรับครึ่งหลังของปีนี้บริษัทมีแผนจะเปิดตัวโครงการใหม่เพิ่มอีก 2 โครงการ โดยโครงการแรกจะเปิดตัวอยู่ในโซนถนนราชพฤกษ์เป็นโครงการบ้านเดี่ยวมูลค่า 1,000 ล้านบาท และอีกโครงการเป็นทาวน์โฮมในโซนตะวันออกของ กทม. มูลค่า 1,000 ล้านบาท นอกจากนี้ยังอยู่ระหว่างการออกแบบโครงการรีเทลในพื้นที่โครงการพรีเมียร์รามคำแหง ซึ่งจะมีการลงทุนพัฒนาโครงการในปี 59