ในช่วงที่เศรษฐกิจโลกยังซึมๆ ขณะที่กลไกส่งออกของไทยไม่คึกคัก รัฐบาลชุดนี้มุ่งมั่นที่จะใช้กลไกการลงทุน กระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเฉพาะเมกะโปรเจกท์ อาทิ รถไฟความเร็วสูง โครงการทางคู่ และอีกหลายๆ โครงการเป็นตัว "จ้างงาน" กระตุ้น "จีดีพี" ซึ่งแน่นอนว่า จะเกิดการบูมของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ตามมาในหลายๆ ทำเลทอง

อาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม เชื่อว่า การพัฒนาเมืองจากการใช้ประโยชน์ของการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานจะทำให้ ผลิตภัณฑ์มวลรวม (GDP) โต ขึ้นหากมีการจัดรูปที่ดินและมีการตื่นตัวของภาคอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจ รวมถึงเขตเศรษฐกิจพิเศษและนิคมอุตสาหกรรมต่างๆ ยกตัวอย่าง เช่น โครงการรถไฟความเร็วสูงเส้นทางกรุงเทพฯนครราชสีมา สามารถพัฒนาการใช้ประโยชน์พื้นที่เชิงพาณิชย์ได้มากขึ้น หากให้เอกชนเข้ามาพัฒนาก็จะทำให้มีเม็ดเงินไหลเข้ามาและเกิดมูลค่าให้กับพื้นที่

ขณะที่การเชื่อมเส้นทางแนวพื้นที่เศรษฐกิจตะวันออก-ตะวันตก (East-West Corridor) และการเชื่อมเส้นทางแนวพื้นที่เศรษฐกิจเหนือ-ใต้ (North-South Corridor) โดยขณะนี้มีการพัฒนาเส้นทาง East-West Corridor ในเส้นทางแม่สอด-มุกดาหาร ระยะทางประมาณ 770 กิโลเมตร ช่วงพิษณุโลก-หล่มสัก ระยะทางประมาณ 100 กิโลเมตร ได้มีการขยายช่องจราจรเพิ่มเป็น 4 ช่องจราจร ซึ่งจุดนี้จะเป็นการเปิดภูมิทัศน์ใหม่ในบริเวณพื้นที่ผ่านภูเขาทำให้เกิดจุดท่องเที่ยว และที่พักต่างๆตามเส้นทางดังกล่าว

ขณะที่ด้านการลงทุนรถไฟ รมว.คมนาคม ยกตัวอย่างเส้นทางรถไฟทางคู่เส้นใหม่คือ เส้นทางบ้านไผ่มุกดาหาร-นครพนม ซึ่งในอนาคตจะมีการพัฒนาให้เป็นสถานีใหญ่ เพราะจะเป็นจุดเชื่อมที่ต่อไปทางตะวันตก จากบ้านไผ่ไปนครสวรรค์และเชื่อมไปยังแม่สอดและตาก ในส่วนของขอนแก่น หากมีการเปิดตัวสถานีที่บ้านไผ่ก็จะทำให้มีความเจริญเติบโตมากยิ่งขึ้น

รมว.คมนาคมยืนยันว่า การลงทุนโครงการขนาดใหญ่ (เมกะโปรเจกท์) ในปีนี้มี 20 โครงการที่อยู่ในขีด ความสามารถที่คณะรัฐมนตรีจะสามารถพิจารณาอนุมัติได้แล้วเสร็จ ซึ่งได้มีการอนุมัติไปแล้ว 11 โครงการ มีมูลค่าการลงทุนรวมอยู่ที่ประมาณ 4.6 แสนล้านบาท และขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการก่อสร้างและการประกวดราคา หากโครงการที่ประกวดราคาดำเนินการแล้วเสร็จในปีนี้ก็จะเริ่มทำการก่อสร้างปลายปีนี้ถึงต้นปีหน้า

ส่วนในปี 2560 นั้นยังมีการดำเนินการต่อเนื่องของปี 2559 ในโครงการรถไฟทางคู่ที่จะเริ่มการดำเนินแผนในระยะที่ 2 และระยะที่ 3 แต่ขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูลคาดว่าจะสรุปได้ก่อนเดือน ต.ค. 2559

"ความเจริญทางเศรษฐกิจในภาคอสังหาริมทรัพย์ มักจะมีคอนโดฯโครงการต่างๆ เกาะไปตามแนวเส้นทางของรถไฟฟ้าและคอนโดฯที่ยิ่งอยู่ใกล้รถไฟฟ้าก็จะมีราคา ที่สูง ซึ่งก็เป็นอีกหนึ่งกลไกที่กระตุ้นทางเศรษฐกิจจากการดำเนินโครงการรถไฟฟ้าที่ มีการต่อเชื่อมขยายเส้นทางจากกรุงเทพฯไปยังชานเมืองต่างๆที่มีการเดินทางสูง" นายอาคม กล่าว

มีรายงานแจ้งว่า สำหรับ ไฮสปีดเทรน กรุงเทพฯ-นครราชสีมา ระยะทาง 253 กม. จะแบ่งการก่อสร้าง 4 ตอน ได้แก่ ช่วงที่ 1 ระยะทาง 3.5 กม. จากสถานีกลางดง-ปางอโศก ช่วงที่ 2 ระยะทาง 10 กม. ช่วงที่ 3 ระยะทาง 120.5 กม. และช่วงที่ 4 ระยะทาง 119 กม. ตั้งเป้าจะประกวดราคาและเริ่มสร้างเดือน ก.ย.นี้ ส่วนช่วงที่ 2-4 จะทยอยออกแบบ คาดว่า เดือนก.พ. 2560 จะเริ่มก่อสร้างได้ครบทั้งโครงการ

ด้าน นายธีรพันธ์ เตชะศิรินุกูล รองผู้ว่าการกลยุทธ์และแผน การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศ (รฟม.) เปิดเผยว่าโครงการของรถไฟฟ้าเป็นโครงการใหญ่ลงทุนสูง และต้องเกี่ยวข้องกับองค์กรหลายแห่งกว่าจะได้มีการเริ่มดำเนินการก่อสร้างยก ตัวอย่าง เช่น โครงการรถไฟฟ้าสายเฉลิมรัชมงคล (รถไฟฟ้าใต้ดิน) ที่กว่าจะได้ดำเนินการใช้ระยะเวลากว่า 10 ปีถือว่ามีกระบวนการในการขออนุมัตินานมาก

อย่างไรก็ดี ผลตามมาคือการเจริญทางเศรษฐกิจในภาคอสังหาริมทรัพย์ ที่มักจะมีคอนโดฯโครงการต่างๆ เกาะไปตามแนวเส้นทางของรถไฟฟ้า ขณะที่คอนโดฯที่ยิ่งอยู่ใกล้รถไฟฟ้าก็จะมีราคาที่สูง ซึ่งก็เป็นอีกหนึ่งกลไกที่กระตุ้นทางเศรษฐกิจจากการต่อเชื่อมขยายเส้นทางไป ยังชานเมืองต่างๆที่มีการเดินทางสูง

มีรายงานจากกระทรวงคมนาคม แจ้งว่า ในส่วน ของ รฟม.คาดว่าโครงการจะได้รับการอนุมัติในปีนี้คือ โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง (ใต้) ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ ส่วนโครงการที่เตรียมจะขออนุมัติการดำเนินการภายในปี 2560 ที่ได้บรรจุอยู่ในแผนปฏิบัติการโครงสร้างพื้นฐานระยะเร่งด่วนได้แก่ โครงการรถไฟฟ้าสายเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต และช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ ที่ทางด้านเหนือมีแผนที่จะต่อขยายจากคูคตไปถึงลำลูกกาและทางด้านใต้มีแผนที่ จะต่อขยายจากสมุทรปราการไปถึงบางปู, โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มฝั่งตะวันตกช่วงศูนย์วัฒนธรรม-ตลิ่งชั่น เพื่อเชื่อมต่อกับโครงการรถไฟฟ้าสายสีแดงของ การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) และโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินที่จะต่อขยายจากบางแค-หลักสองไปถึงพุทธมณฑล สาย 4

ส่วนหลายโครงการที่ได้รับการอนุมัติแล้ว อาทิ โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มฝั่งตะวันออกช่วงศูนย์วัฒนธรรมฯ - มีนบุรี โครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลืองช่วงลาดพร้าวสำโรง และโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูช่วงแคราย-มีนบุรี ที่ทาง รฟม.ได้มีการออกประกาศเชิญชวนขาย เอกสารคัดเลือกผู้รับจ้างงานโยธาก่อสร้างไปแล้ว

ที่มา : หนังสือพิมพ์แนวหน้า