นางสาวทรรศวรรณ ปรีดาวิภาต ผู้อำนวยการ ฝ่ายพัฒนาโครงการ บริษัท ธนาพัฒน์ พร็อพเพอร์ตี้ ดิเวลล็อปเมนท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจากลุ่มทุนต่างประเทศ ซึ่งเป็นผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ในแถบเอเชีย ให้ความสนใจเข้าร่วมลงทุนกับธนาพัฒน์ฯ ในลักษณะการพัฒนารายโครงการ ไม่ใช่การ เข้ามาซื้อหุ้นร่วมทุน คาดได้ข้อสรุปภายใน สิ้นปีนี้
ทั้งนี้ พันธมิตรต่างประเทศมองไทยมีศักยภาพในการลงทุน ซึ่งการร่วมทุนดังกล่าวจะทำให้บริษัทมีความสามารถในการลงทุน มากขึ้น เพิ่มศักยภาพการแข่งขัน นำไปสู่การเติบโตอย่างรวดเร็ว
อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงมีนโยบายการดำเนินงานแบบระมัดระวัง เน้นสร้างการเติบโตแบบมั่นคง โดยวางแผนระยะ 3-5 ปีข้างหน้า มุ่งพัฒนาโครงการมูลค่าไม่น้อยกว่า 3,000-5,000 ล้านบาทต่อปี
"กระแสการเข้าซื้อกิจการ หรือร่วมทุนในธุรกิจอสังหาฯ เพราะการลงทุนอสังหาฯ ต้องใช้เม็ดเงินจำนวนมาก ปัจจุบันต้องใช้เทคโนโลยีในการก่อสร้างมากขึ้น เพื่อลดปัญหาขาดแคลนแรงงาน การร่วมทุนหรือควบรวมกิจการ จึงเป็นทางเลือกที่ทำให้สามารถขยายโครงการและซื้อที่ดินได้มากขึ้น ได้เปรียบด้านการแข่งขัน"
สำหรับภาพรวมธุรกิจอสังหาฯครึ่งปีหลัง มองว่ายังไม่ฟื้นตัว เพราะมีปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ทั้งหนี้สินครัวเรือนในอัตราสูง อัตราการปล่อยสินเชื่อจากสถาบันการเงินค่อนข้างต่ำ ราคาที่อยู่อาศัยและที่ดินปรับสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะแนวรถไฟฟ้า ผู้ประกอบการจึงต้องระมัดระวังการลงทุน "โครงการที่มีการเปิดตัวและปิดยอดขายได้ภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว ต้องไปลุ้นอีกครั้งช่วงโอนกรรมสิทธิว่าจะเป็นความต้องการแท้จริงหรือไม่ หรือเป็นนักลงทุน แต่ถ้ามีสัดส่วนของการเก็งกำไรมากก็น่าเป็นห่วง เชื่อว่าปัจจุบันความต้องการที่อยู่อาศัยยังมีอยู่มาก สะท้อนจากยอดเยี่ยมชมโครงการที่สูง เพียงแต่การตัดสินใจช้าลง"
ในครึ่งปีหลัง นี้ถึงช่วงต้นปี 2559 คาดจะมีการเปิดตัว 2-3 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 2,000 ล้านบาท ขณะนี้ มีที่ดินแล้ว 1 แปลง และที่ดินสะสมย่านพระราม 2-3 แปลง แนวทางพัฒนาโครงการไม่ใหญ่ ประมาณ 50-60 ยูนิต เป็นคอนเซปต์ใหม่ที่ยังไม่เคยพัฒนา มาก่อน เน้นเจาะลูกค้าต้องการอยู่อาศัย ในเมือง
นอกจากนี้ มุ่งจัดแคมเปญส่งเสริม การขายเพื่อกระตุ้นการซื้อโครงการ "ซิม วิภาลาดพร้าว" คอนโดมิเนียม เหลือขาย 10 ยูนิต เนื้อที่ 60 ตร.ม.ขึ้นไป ราคาเริ่มต้น 5.9 ล้านบาท "เจด สาทร-พระราม3" แบ่งการขาย 2 เฟส เป็นทาวน์โฮม 4 ชั้นครึ่ง ขนาด 20.5 ตร.ว. ขึ้นไป ราคาเริ่มต้น 12.8-30 ล้านบาท จำนวน 72 ยูนิต ปัจจุบันมียอดขายแล้ว 60% และ "เจด ไฮท์" ลักชัวรีโฮมออฟฟิศ ขนาด 45 ตร.ว. ราคา 28 ล้านบาท เหลือขาย 4 ยูนิต พร้อมออกบูธในงาน "บ้านดีสี่มุมเมือง" วันที่ 30 ก.ค.-4 ส.ค. ที่เซ็นทรัล พลาซ่า ลาดพร้าว คาดปิดการขายทั้ง 2 โครงการสิ้นปีนี้ ทำให้มีความสามารถในการลงทุนมากขึ้น เพิ่มศักยภาพการแข่งขัน
ที่มา : หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ