ตลาดคอนโดมิเนียมเริ่มมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่องมากว่า 10 ปี นับตั้งแต่ปี 2549 หลังตลาดอสังหาฯ แนวราบได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมในช่วงปลายปี 2554 ทำให้ตลาดคอนโดฯ ในปี 2555 มีอุปทานใหม่เข้าสู่ตลาดกว่า 64,000 ยูนิต จาก 174 โครงการ รวมถึงราคาที่เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆตามปัจจัยต่างๆ เช่น ค่าแรงและค่าวัสดุก่อสร้างที่เพิ่มขึ้น อีกทั้งที่ดินทำเลดีๆในเมืองเริ่มหายากขึ้น ผู้ประกอบการบางรายซื้อไว้ตั้งแต่ราคาที่ดินยังถูก รอเวลาและจังหวะที่เหมาะสมที่จะขึ้นโครงการ เพื่อสร้างกำไรจากราคาที่เพิ่มขึ้นตามกาลเวลา

สำหรับทำเลที่ยังคงมี Demand ที่สูงและ Supply ที่ร้อนแรง เป็นทำเลที่เหมาะแก่การลงทุนยังคงเป็นในกลางเมือง (City Area) เช่น สุขุมวิท, เพลินจิต, ทองหล่อ, อารีย์ ที่ ณ วันนี้ราคาคอนโดฯใหม่ที่เปิดตัวถึงตารางเมตรละ 300,000 บาทไปแล้ว สิ่งที่จะเห็นปีนี้คือ Prime area อย่างใจกลางเมืองจะเกิดตลาดคอนโดฯระดับหรู (Luxury/Super Luxury) มากขึ้น ดังจะเห็นได้จากกราฟด้านล่าง ที่สำรวจจากการประกาศเปิดตัวโครงการ Luxury/Super Luxury ใจกลางเมืองอย่าง โครงการ Four Seasons Private Residences ที่มีราคาเปิดตัวเริ่มต้นอยู่ที่ตารางเมตรละ 300,000 บาทและโครงการที่กำลังเป็นที่น่าจับตามองอยู่ตอนนี้คือโครงการ Nimit หลังสวน ที่มีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณตารางเมตรละ 300,000 บาทเช่นกัน

จะเห็นได้ว่าทำเลใจกลางเมือง (City Area) ที่เป็นทำเลทองแห่งกรุงเทพฯ ตลาดคอนโดฯยังคงคึกคักในทำเลนี้ ที่มีอัตราการเติบโต (Y-o-Y) เฉลี่ยประมาณ 40%คงไม่ใช่เรื่องแปลกนักที่ห้องชุดในทำเลนี้เป็นที่หมายปองของนักลง ทุนกระเป๋าหนักที่พร้อมจะซื้อไว้เก็งกำไรหรือปล่อยเช่าเพื่อทำกำไรระยะยาว

เมื่อสำรวจในทำเลถัดออกมาคือ กรุงเทพฯชั้นกลาง (Outer City) เช่น รัชดาภิเษก, ลาดพร้าว, เจริญนคร ที่พบว่าใน 2-3 ปีมานี้ ทำเลนี้เป็นที่น่าจับตามอง ด้วยศักยภาพของทำเลที่ใกล้เคียงกับในเมือง จึงไม่ใช่เรื่องยากนักที่ในทำเลนี้จะกลายเป็น CBD แห่งใหม่ของกรุงเทพฯ ทำให้ราคาของคอนโดมิเนียมเริ่มปรับตัวขึ้นสูง โดยมีอัตราการเติบโต (Y-o-Y) เฉลี่ยประมาณ 20% สิ่งที่น่าจับตามองในทำเลนี้โดยเฉพาะย่านรัชดาภิเษก ด้วยการรุกเข้าลงทุนของจีน กว้านซื้อห้องชุดฯในย่านนี้ เพื่อให้เป็นที่พักอาศัยสำหรับคนจีนที่เข้ามาทำงานในไทย

และกรุงเทพฯชั้นนอก (Suburban) เช่น แจ้งวัฒนะ, มีนบุรี, รามคำแหง, บางนา ที่แม้ว่าตลาดจะไม่ได้หวือหวามากนักในช่วงที่ผ่านมา แต่การขยายตัวของระบบขนส่งมวลชน (mass transit) ที่จะเกิดขึ้นในอีก 2-5 ปีข้างหน้านี้ จะส่งผลให้ราคาคอนโดฯในทำเลนี้เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งในปัจจุบันคอนโดฯในทำเลนี้นับว่ายังมีราคาที่ไม่สูงมากนัก ราคายังสมเหตุสมผลกับทำเลที่อยู่ไกลจากตัวเมืองออกไป

จากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของราคาที่สูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ผู้ซื้อเองก็ควรคำนึงถึงค่าเดินทาง คำนึงถึงค่าใช้จ่ายอื่นๆให้มากขึ้น เพื่อให้ได้คอนโดฯที่ “คุ้มค่า” จริงๆเท่านั้น

เพราะเรารู้ว่า "บ้าน" เป็นสิ่งสำคัญ  เลือกอสังหาฯ เลือก..บ้านคุ้มค่า