บมจ.ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ ผู้ประกอบการธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ประเภทคอนโดมิเนียมตามแนวสถานีขนส่งมวลชนระบบรางในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล เผยราคาเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้ประชาชนครั้งแรก (IPO) จำนวน 150 ล้านหุ้น ราคาหุ้นละ 9.00 บาท พร้อมเปิดจองวันที่ 30 ก.ย.- 2 ต.ค.58 นี้ ก่อนเข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์ ฯ ในวันที่ 7 ต.ค.2558 และได้แต่งตั้งบริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการการจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญและบล.คันทรี่ กรุ๊ป บล.โนมูระ พัฒนสิน บล.เคที ซีมิโก้ เป็นผู้จัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย มั่นใจได้รับการตอบที่ดีจากนักลงทุน ด้านผู้บริหาร "พีระพงศ์ จรูญเอก"เผยครึ่งปีหลังเตรียมลุยเปิดโครงการใหม่ 3-4 โครงการ มูลค่า 5 พันล้านบาท ส่วนเม็ดเงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้นำไปขยายโครงการในอนาคต หวังสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นในอนาคต
คุณแมนพงศ์ เสนาณรงค์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้ที่ปรึกษาทางการเงินและ ผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเปิดเผยว่า ทางบริษัทฯได้ดำเนินการสำรวจความต้องการซื้อหุ้น (Book Building) ของนักลงทุน โดยมีช่วงราคาที่เสนอขาย 9.00บาทต่อหุ้น พบว่านักลงทุนสถาบันให้ความสนใจโดยมียอดBookbuild แสดงความต้องการสูงถึง 11เท่า ของจำนวนหุ้นที่จัดสรรให้แก่นักลงทุนสถาบัน
ดังนั้นบริษัทฯ และ บมจ.ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ (ORI) จึงกำหนดราคาที่จะเสนอขายหุ้นให้กับประชาชนครั้งแรก (IPO) จำนวน 150 ล้านหุ้น ในราคา 9.00 บาทต่อหุ้นและราคาหุ้น IPO มีส่วนลดประมาณ 28% เมื่อเทียบกับราคายุติธรรมจากบทวิเคราะห์หุ้นบริษัทฯโดยเปิดจองซื้อหุ้น บริษัทฯ ในวันที่ 30 ก.ย.-2 ต.ค. 2558 และคาดว่าเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ วันที่ 7 ตุลาคม 2558 นี้
"บริษัทฯ มั่นใจว่าหุ้น IPO ของ ORI จะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน เนื่องจากปัจจัยพื้นฐานของบริษัทฯที่มีความแข็งแกร่ง ด้วยการดำเนินธุรกิจด้านพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ประเภทคอนโดมิเนียมตามแนวสถานีขนส่งมวลชนระบบรางในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑลโดย โครงการอสังหาริมทรัพย์ของบริษัทเป็นลักษณ์ คอนโดมิเนียมประเภทLow Riseและ High Rise ที่สามารถผสมผสานระหว่างการรับรู้รายได้ได้เร็ว และมีผลตอบแทนจากอัตรากำไรที่สูง" นายแมนพงศ์ กล่าว
ปัจจุบันบริษัทฯมีโครงการทั้งหมด 27 โครงการ มูลค่ารวม 17,052 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการที่ก่อสร้างแล้วเสร็จ 9 โครงการ มูลค่า 3,117 ล้านบาท , โครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง 6 โครงการ มูลค่า 3,610 ล้านบาท, โครงการที่อยู่ระหว่าง Pre Sales 7 โครงการ 6,955 ล้านบาท และ โครงการที่เตรียมเปิดตัวในอนาคต 5 โครงการ มูลค่า 3,370 ล้านบาท และปัจจุบัน มี Back Logในมือกว่า 5,376 ล้านบาท
ด้านนายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ หรือ ORI กล่าวว่า ในช่วงครึ่งปีหลัง 2558บริษัทมีแผนเปิดโครงการใหม่อีกประมาณ 3-4 โครงการ มูลค่าประมาณ 5,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการคอนโดมิเนียมทั้งหมด และอาจจะเห็นการเปิดโครงการผสมผสานในรูปแบบคอมมูนิตี้มอลล์ได้ในอนาคต
ส่วนแนวโน้มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในครึ่งปีหลังมองว่าความต้องการที่อยู่อาศัยมี การขยายตัวอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะคอนโดมิเนียมมีการเติบโตสูงขึ้น เนื่องจากคอนโดฯ ถือเป็นอสังหาริมทรัพย์ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของกลุ่มคนรุ่นใหม่ได้มากที่สุด
สำหรับเม็ดเงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้บริษัทจะนำไปใช้ในการขยายโครงการที่ อยู่ระหว่างการก่อสร้าง 6 โครงการ มูลค่า 3,610 ล้านบาท, โครงการที่อยู่ระหว่าง Pre Sales 7 โครงการ 6,955 ล้านบาทและโครงการที่เตรียมเปิดตัวในอนาคต 5 โครงการ มูลค่า 3,370 ล้านบาท
ด้านผลการดำเนินงานของบริษัทในงวด 6 เดือนแรกของปี 2558 บริษัทฯมีอัตราการทำกำไรสุทธิอยู่ที่ 229.94 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3,240% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่รายได้รวมอยู่ที่ 1,080.09 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 762% เนื่องจากบริษัทฯ มีความสามารถในการทำยอดพรีเซล ได้สูงถึง 203% เป็นผลจากการเปิดโครงการคอนโดมิเนียม ตั้งแต่ต้นปี 2558 จำนวน 6 โครงการ คิดเป็นมูลค่าโครงการรวมทั้งหมด 3,175 ล้านบาทและมียอด Back Logในมือ ณ สิ้นไตรมาส 2/58 ประมาณ 5,376 ล้านบาท
"การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นั้นเป็นโอกาสที่ดีในการสร้างแบรนของ ORIGIN ให้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางมากขึ้นทั้งในกลุ่มของผู้ซื้อคอนโด และนักลงทุน รวมถึงเป็นการสร้างความน่าเชื่อถือ และความไว้วางใจให้กับบริษัท และผู้ซื้อคอนโดในระยะยาว" นายพีระพงศ์ กล่าว