การรักษาบ้านให้ดูใหม่อยู่เสมอไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแต่รู้วิธีอย่างเช่น การเปลี่ยนสีสันของบ้านหรือเปลี่ยนเครื่องใช้เฟอร์นิเจอร์ ก็ทำให้บ้านดูสวยได้แล้วเรามีคำแนะนำ 9 ข้อที่น่ารู้ในการทาสีให้ดูสดใสโดดเด่น
1. เตรียมงบประมาณ
อย่างแรกต้องคำนึงถึง เงิน ที่เราสามารถใช้จ่าย ว่าเรามีงบประมาณอยู่เท่าไหร่ซึ่งจะต้องรวมทั้งค่าสีค่าช่างทาสี รวมถึงอุปกรณ์ต่าง ๆ
2. ถามผู้เชี่ยวชาญ
ในการทาสีบ้านเราต้องรู้ว่าเราจะทาสีลงบนพื้นผิวประเภทใด ผิวปูน หรือ ผิวไม้ ใช้ทาสีภายในหรือภายนอก หากเราไม่แน่ใจว่าจะใช้ ว่าจะใช้สีอะไรดี ควรจะปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ สถาปนิก หรือช่างทาสี ซึ่งจะมีคำแนะนำดี ๆ ในการใช้สีให้ถูกประเภท และลักษณะการใช้งาน
3. การเลือกสี
เมื่อสอบถามผู้เชี่ยวชาญจนแน่ใจในเรื่องการใช้สีให้ถูกต้องแล้ว เลือกสีที่ ตัวเองชอบ ยิ่งเป็นสีทาภายในควรให้กลมกลืนกับขอบประตู-หน้าต่าง ละถ้าพื้นผิวภายนอก เป็นปูนควรเลือกใช้สีที่มีคุณภาพสูงที่สามารถยืดอายุการใช้งานให้นานปกป้อง สีบ้านจากการซีดจางที่เกิดจากแสงแดด ทนทานต่อสภาวะอากาศต่อต้านการเกิดเชื้อ รา ตะไคร่น้ำ รวมทั้ง ไม่จับฝุ่นซึ่งจะทำความสะอาดได้ง่าย
4. การเตรียมพื้นผิว
ก่อนจะลงมือทาสีควร ทำความสะอาดฝุ่นละออง และใช้แปรงแซะสีเก่าที่หลุดลอกออกเช็ดให้สะอาด แล้วปล่อยให้แห้งสนิท การเตรียมพื้นผิวที่ถูกต้องจะช่วยให้สีที่ทาติดนานยิ่งขึ้น
5. ทาสีรองพื้น
การทาสีรองพื้นรก่อนจะช่วยยึดเกาะกับผนังได้ดีไม่หลุดออกง่าย ๆ เลือกสีรองพื้นชนิดที่เหมาะสมกับสภาพพื้นผิว เพราะสีรองพื้นสำหรับพื้นที่ยังไม่เคยทาสีมาก่อน ควรใช้สีรองพื้นที่สามารถป้องกันด่างหรือการใช้สีรองพื้นสำหรับพื้นผิวเนื้อ อ่อน และไม้เนื้อแข็งที่อาจมียางซึมออกมาได้ ควรทาสีรองพื้นที่สามารถกันยางและเชื้อรา
6. อุปกรณ์ทาสี
แปรงทาสี และลูกกลิ้งมีความแตกต่างกัน แปรงทาสี สามารถเข้าได้ทุกซอกมุมของพื้นที่ที่ต้องการทา จึงเหมาะกับในกรณีที่เตรียมพื้นผิวแบบหยาบ ๆ หรือผิวที่ไม่เรียบ การใช้แปรงทาจะทำให้สีสัมผัสกับผิวผนังในซอกมุมต่าง ๆ ได้ดี ลูกกลิ้งเหมาะสำหรับการทาในพื้นที่กว้าง ๆ ซึ่งสามารถทำให้การทาสีทำได้เร็วกว่า แต่ลูกกลิ้งจะใช้ปริมาณมากกว่าการทาด้วยแปรง
7. อุปกรณ์จำเป็นอื่นๆ
สิ่งที่ลืมไม่ได้เลยคือผ้าปูผื้นกันเปื้อนเพื่อป้องกันสีกระเด็นหรือตก หล่นพื้น บันได้สำหรับทาที่สูงและเพดาน ถาดผสมสี และอุปกรณ์ทำความสะอาดต่างๆ
8. การเก็บรายละเอียด
เมื่อทาเสร็จแล้ว ควรตรวจสอบหาข้อบกพร่อง เช่น สีที่ทาอาจจะไม่สม่ำเสมอกัน หรือยังไม่ได้ทาในส่วนที่เป็นซอกเป็นมุม จากนั้นเก็บรายละเอียดของงานให้ละเอียดของงานให้เรียบร้อย เท่านี้ก็จะได้บ้านที่ดูใหม่ และสดใสขึ้นโดยไม่ต้องมีการตกแต่งอะไรให้สิ้นเปลือง
9. การเก็บรักษาสี
หากใช้สีไม่หมดแต่เหลือจำนวนสีไม่มาก และอยากเก็บสีไว้ใช้ต่อครั้งหน้า ควรจะเทสีใส่กระป๋องที่มีขนาดเล็กปิดฝา ให้แน่น เพื่อป้องกันการแข็งตัวของสีบนพื้นผิว
9 ข้อง่ายๆ เพียงเท่านี้ ก็จะให้สีที่ดูสดสวยใส คงทน สะท้อนความเป็นตัวของคุณ เปลี่ยนบ้านของคุณให้ดูใหม่ ทันสมัยตอบโจทย์ความต้องการของคุณได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
ข้อมูลจาก HOME KNOWLEDGE