บาทอ่อนค่าหนุนราคาทองขึ้น 400 บาท คาด มิ.ย. ได้เห็นขยับขึ้นบาทละ 2 หมื่นอีกครั้ง ลุ้น กนง.ผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่ม ชี้เฟดขึ้นดอกเบี้ย ก.ย. นี้ไม่กระทบ ราคาทองในประเทศขยับลงไม่แรงเพราะเงินบาทอ่อนช่วยพยุง
นายกมลธัญ พรไพศาลวิจิต ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงจากประมาณ 32.50 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐเมื่อเดือนเมษายน 2558 เป็นประมาณ 33.50 บาทต่อดอลลาร์ ในเดือนพฤษภาคมนี้ ทำให้ราคาทองคำในประเทศปรับเพิ่มขึ้นแล้วประมาณ 400 บาทต่อบาททองคำ จากค่าเฉลี่ย 18,500 บาทต่อบาททองคำในเดือนเมษายน มาแตะระดับ 19,000 บาทต่อบาททองคำเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม สวนทางกับราคาทองคำโลกที่ยังทรงตัวในระดับ 1,170-1,200 ดอลลาร์ต่อทรอย์ออนซ์ ในอนาคตหากค่าเงินบาทอ่อนค่าไปแตะระดับ 34 บาทต่อดอลลาร์ บนราคาทองคำโลกที่ระดับ 1,230-1,250 ดอลลาร์ ราคาทองในประเทศจะขึ้นไปแตะระดับ 2 หมื่นบาทต่อบาททองคำ คาดว่าจะได้เห็นภายใน 3-4 เดือน หรือเร็วที่สุดภายในเดือนมิถุนายนนี้ เนื่องจากเศรษฐกิจไทยยังไม่ฟื้นตัว เงินเฟ้อต่ำทำให้ในไตรมาสที่ 2 ประเทศไทยเสี่ยงต่อภาวะเงินฝืดทางเทคนิค โอกาสที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะผ่อนคลายนโยบายการเงินยังมีอย่างต่อเนื่อง แนวโน้มค่าเงินบาทจึงอยู่ในช่วงอ่อนค่า
นายกมลธัญ กล่าวว่า จากการสำรวจพบว่าผู้ค้าทองคำส่วนใหญ่มองว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะขึ้นดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมวันที่ 16-17 กันยายนนี้ ช้ากว่าที่คาดการณ์ เพราะเศรษฐกิจสหรัฐเริ่มชะลอตัว ธนาคารกลางของประเทศญี่ปุ่นและยุโรปผ่อนคลายนโยบายการเงินกดดันดอลลาร์แข็งค่า ทั้งนี้ หากเฟดขึ้นดอกเบี้ยจะส่งผลลบต่อราคาทองคำโลกให้ลงมาอยู่ที่ 1,100 ดอลลาร์ต่อทรอย์ออนซ์ ราคาทองคำในประเทศจะลงมาที่ 17,500-18,500 บาทต่อบาททองคำ บนอัตราค่าเงินบาทที่ 33.50 บาทต่อดอลลาร์ ลดน้อยกว่าเดิมที่คาดว่าจะเห็นระดับไม่ถึง 17,000 บาท "เดือนพฤษภาคม ราคาทองจะดีสุดในช่วงวันที่ 11-22 พฤษภาคม เพราะมีปัจจัยบวกจากการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจและตัวเลขภาคการผลิตของสหรัฐยังไม่ดี หากราคาขึ้นไปถึงบาทละ 19,000-19,500 แนะนำให้ขายทำกำไร ส่วนนักลงทุนระยะยาวให้รอซื้อเมื่อเฟดขึ้นดอกเบี้ย" นายกมลธัญกล่าว
นายกมลธัญ กล่าวว่า ดัชนีความเชื่อมั่นเดือนพฤษภาคม ผู้ค้าทองคำมองราคาทองในประเทศจะเคลื่อนไหวใน 2 กรอบ คือ บาททองคำละ 19,000-19,500 บาท และ 18,000-18,500 บาท ทั้งนี้ผู้ซื้อทองคำ 40% ในกลุ่มตัวอย่างคาดว่าจะซื้อทองคำเพราะมองว่าโอกาสทองราคาขึ้นยังมีอยู่
ข้อมูลจาก : Matichon Online