ลลิลฯ เดินหน้าเปิด 8 โครงการในทำเลเด่น ตั้งเป้ารายได้ทั้งปีโต 15 % ตอกย้ำ 29 ปีแห่งความเชื่อมั่น

819 Views เผยแพร่ 18 ม.ค. 59
ลลิลฯ เดินหน้าเปิด 8 โครงการในทำเลเด่น ตั้งเป้ารายได้ทั้งปีโต 15 % ตอกย้ำ 29 ปีแห่งความเชื่อมั่น

บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) มองตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยปี 59 อยู่ในสภาวะปรับตัวจากภาวะเศรษฐกิจผันผวนและภาวะอสังหาริมทรัพย์ชะลอตัว ความเชื่อมั่นผู้บริโภค-ภาคสินเชื่อที่ฟื้นตัว และภาครัฐอัดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเต็มรูปแบบ เตรียมก้าวสู่ปีที่ 29 แห่งความเชื่อมั่นอย่างยิ่งใหญ่ รุก 3 กลยุทธ์ "Quality - Service Mind - CRM" ปรับโฉมองค์กร ตอกย้ำศักยภาพความเป็นมืออาชีพ และเป็นผู้นำด้านการเปลี่ยนแปลงเทรนด์อสังหาฯ ปักหมุดทำเลโดดเด่นปีนี้เปิดโครงการใหม่ 8 โครงการ มูลค่า 4,000 ล้านบาท เพื่อรองรับการขยายตัวของตลาดอสังหาฯ ทั้งกรุงเทพ-ปริมณฑล และต่างจังหวัด ตั้งเป้ายอดขายสิ้นปี 2,800 ล้านบาท และเป้ารับรู้รายได้ที่ 2,400 ล้านบาท เติบโตกว่า 15%

นายไชยยันต์ ชาครกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ LALIN ผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ภายใต้คอนเซ็ปต์ "บ้านที่ปลูกบนความตั้งใจที่ดี" เปิดเผยถึงแนวโน้มภาคอสังหาริมทรัพย์ปี 2559 ว่า ตลาดอสังหาฯอยู่ในสภาวะปรับตัวจากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจทั่วโลกและเศรษฐกิจไทยที่อยู่ใน ช่วงชะลอตัว การเมืองมีเสถียรภาพ และรัฐบาลให้ความสำคัญกับการกระตุ้นเศรษฐกิจเต็มรูปแบบ โดยหนึ่งในมาตรการนั้นคือการกระตุ้นภาคธุรกิจอสังหาฯ ในกลุ่มผู้มีรายได้ระดับกลางและระดับล่าง ซึ่งนับว่าเป็นฐานผู้บริโภคขนาดใหญ่ ทำให้ช่วยดึงความเชื่อมั่นของผู้บริโภคให้กลับมา ด้านภาคการปล่อยสินเชื่อของธนาคาร เริ่มมีความเชื่อมั่นมากขึ้น นอกจากนั้นรัฐบาลยังเร่งผลักดันแผนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ (เมกะโปรเจ็กต์) โดยเฉพาะโครงการก่อสร้างระบบขนส่งคมนาคมและอื่นๆ มูลค่าลงทุนกว่า 2.7 ล้านล้านบาท เชื่อว่าจะช่วยส่งเสริมให้ตลาดอสังหาฯ กลับมาคึกคักได้และสนับสนุนการเติบโตในระยะยาว อย่างไรก็ดีภาคธุรกิจอสังหาฯ ยังมี "ปัจจัยลบ" ที่ยังคงต้องจับตาดูอย่างใกล้ชิด ทั้งสถานการณ์เศรษฐกิจจีนและตลาดทุนกำลังผันผวนและเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัว เปราะบาง ราคาที่ดินที่มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นมากเกินไป ปัญหาหนี้ครัวเรือนอยู่ในระดับสูง และปัญหาโอเวอร์ซัพพลายของโครงการแนวสูงจากปีที่ผ่านๆ มา

สำหรับแผนการดำเนินงานของบริษัทในปี 2559 บริษัทยังคงมีความเชื่อมั่นในศักยภาพการเติบโต และมีการเตรียมแผนธุรกิจที่พร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์ ด้วยทีมงานที่มีศักยภาพ มีความยืดหยุ่นในการปรับแผน กลยุทธ์การดำเนินงานต่างๆได้อย่างรวดเร็ว รวมทั้งมีแผนการบริหารความเสี่ยง (Risk Management) ไว้ล่วงหน้า ตลอดจนบริษัทมีความสามารถในการบริหาร และคุมต้นทุนค่าใช้จ่ายที่ดี ทำให้บริษัทมีสภาพคล่องดี และอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนต่ำ (D/E) กว่าอุตสาหกรรม จะเป็นปัจจัยสนับสนุนและส่งเสริมโอกาสในการขยายการลงทุนของบริษัท ได้อย่างต่อเนื่อง สร้างการเติบโตให้กับบริษัทในระยะยาวอย่างยั่งยืน

นายชูรัชฏ์ ชาครกุล กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ บมจ.ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ กล่าวเสริมว่า ในปี 2559 นี้ ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ ปรับกลยุทธ์การดำเนินงานในเชิงรุกเพื่อตอกย้ำความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ไว้ วางใจ ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ มาเกือบสามทศวรรษ โดยปีนี้จะมุ่งงานและสื่อสาร 3 หลักสำคัญ ได้แก่

  1. คุณภาพ (Quality) ที่ยังคงมุ่งมั่นรักษาระดับมาตรฐานงานออกแบบและการก่อสร้าง เพื่อส่งมอบโครงการคุณภาพให้ถึงมือผู้บริโภค
  2. การบริการ (Service Mind) ที่สร้างความประทับใจ
  3. การดูแลลูกค้า (CRM) ให้ความใส่ใจสร้างสังคมแห่งคุณภาพภายใต้โครงการของบริษัท

ดังนั้น ปีนี้จะเห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญและสร้างความไว้วางใจและความพึง พอใจให้ผู้บริโภคเชื่อมั่นการดำเนินงานของบริษัทได้

สำหรับแผนการเปิดโครงการใหม่ในปี 2559 บริษัทตั้งเป้าหมายทั้งปีนี้ไว้ประมาณ 8 โครงการ มูลค่าประมาณ 4,000 ล้านบาท ครอบคลุมพื้นที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑล และต่างจังหวัดในส่วนของหัวเมืองหลัก และหัวเมืองชั้นรอง แบ่งสัดส่วนทำเลออกเป็น โซนกรุงเทพ-ปริมณฑล 70% และในทำเลต่างจังหวัด 30%

ทั้งนี้ ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ ได้มุ่งสู่ความเป็นผู้นำด้านการเปลี่ยนแปลงธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะโครงการแนบราบที่บริษัทมีความชำนาญ โดยเป็นการเปลี่ยนแปลงทั้งในด้านแนวคิด การวางคอนเซ็ปต์ ตลอดจนการให้ความคุ้มค่าในการอยู่อาศัย การเลือกทำเลศักยภาพสะดวก และการใช้ประโยชน์ได้จริงของผู้อยู่อาศัย ให้พื้นที่ใช้สอยที่มากกว่า มีพื้นที่สวนและที่จอดรถ ในราคาที่สามารถประหยัดงบประมาณได้มากกว่า

"บริษัทจะเป็นผู้นำรายแรกในการนำเทรนด์โครงการแนวราบรอบสถานีรถไฟฟ้าสายสีม่วง (สถานีบางใหญ่) โดยปัจจุบันมีโครงการบ้านเดี่ยว บ้านแนวคิดใหม่และทาวน์โฮม แล้ว 2 โครงการ และเตรียมเปิดในเร็วๆนี้อีก 3 โครงการ ในทำเลศักยภาพที่ล้อมรอบแนวรถไฟฟ้าในระยะไม่ถึง 2 กิโลเมตร เพื่อรองรับความต้องการของกลุ่มลูกค้าครอบครัว และตลาดเรียลดีมานต์ ตลาดที่เป็นชุมชนใหม่ที่มีอนาคตของนนทบุรี ที่ต้องการความคุ้มค่าทั้งในแง่ของพื้นที่ ราคาต่อตารางเมตร และการเดินทางที่สะดวก ไม่แพ้โครงการคอนโดมิเนียมตามแนวรถไฟฟ้า แต่มีราคาที่ใกล้เคียงกัน" นายชูรัชฏ์ กล่าว

ในส่วนของการตั้งเป้า หมายผลการดำเนินงานของบริษัท มั่นใจว่าจะสามารถขยายตัวได้ดีจากปีก่อน โดยตั้งเป้ายอดขายในปีนี้ไว้ที่ 2,800 ล้านบาท และเป้ารับรู้รายได้ที่ 2,400 ล้านบาท หรือขยายตัวเพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ประมาณ 15% บริษัทตั้งงบซื้อที่ดิน 800-900 .ล้านบาท โดยแหล่งเงินทุนส่วนใหญ่มาจากกระแสเงินสดที่มีในมือ อย่างไรก็ดีบริษัทมีแผนออกหุ้นกู้อีกประมาณ 1,000 ล้านบาท เพื่อสำรองทุนไว้ใช้หมุนเวียนในการขยายธุรกิจในระยะยาวให้เติบโตอย่างต่อ เนื่องยั่งยืน และเตรียมพร้อมสำหรับการก้าวเข้าสู่ปีที่ 3 ทศวรรษในปี 2560

ลงประกาศขาย-เช่าฟรี คำนวณการขอสินเชื่อ

คุ้มค่าน่าอ่าน

ประกาศซื้อ-ขายมาใหม่

SHARE

Share Tweet Share
BanKumKa.Com เป็นเว็บไซต์ศูนย์กลางสำหรับซื้อ-ขายอสังหาริมทรัพย์ของประเทศไทย ด้วยข้อมูลที่พร้อมทั้งคอนโดมิเนียม บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ อาคารพาณิชย์ และที่ดิน ไม่ว่าจะเป็นโครงการใหม่หรือบ้านมือสอง อีกทั้งบทความและข่าวสารที่เกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ เพื่อให้คุณได้คัดสรรทรัพย์ที่ดีที่สุดได้ในเว็บไซต์ BanKumKa.com ที่เดียว
เว็บไซต์ BanKumKa.Com มีการเก็บ Cookies ซึ่งเป็นการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลและช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานเว็บไซต์ สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่หน้า นโยบายความเป็นส่วนตัว ยอมรับ