สำนักวิจัย LPN เผยการเปิดตัวอาคารชุด "สายสีเขียว แบริ่ง-สมุทรปราการ" บูมเงียบ สถิติปี 2558 ปีเดียวเปิด 6,700 ยูนิต แซงหน้าแชมป์เก่าสายสีม่วงช่วงก่อนข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา จุดเด่นเป็นทำเลแห่ง อนาคต มีทั้งจุดตัดรถไฟฟ้าสายสีเหลืองที่สถานีสำโรง-ห้างยักษ์บางกอกมอลล์ "เอพี" ยอดขาย 40% รอรถไฟฟ้าเปิดใช้ "ออริจิ้น" มองซัพพลายล้น ปี'59 แนวโน้มชะลอความร้อนแรง

นายสุริยา สุริยาภิวัฒน์ ผู้จัดการสำนักวิจัย บริษัท แอล.พี.เอ็น. ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยประชาชาติธุรกิจว่า ผลวิจัยจากการสำรวจ 5 อันดับทำเลที่มีการเปิดตัวคอนโดมิเนียมจำนวนยูนิตสูงสุด พร้อมราคาและยอดขายมีดังนี้

นายสุริยา กล่าวกับประชาชาติธุรกิจว่า ทำเลสายสีเขียว แบริ่ง-สมุทรปราการ มีการเปิดตัวโครงการมากขึ้น เพราะเป็นส่วนต่อขยายจากแนวรถไฟฟ้าที่สร้างเสร็จแล้วจนถึงแบริ่ง ซึ่งเป็นที่ต้องการของผู้บริโภค แต่ราคาสูงเกินไป ตัวอย่างบริเวณแยกบางนา บางโครงการมีราคาขาย 1 แสนบาท/ตร.ม. ทำให้ดีมานด์ของผู้ซื้อขยับออกสู่ ชานเมืองมากขึ้น

ประกอบกับทำเลแบริ่ง-สมุทรปราการ อนาคตจะมีแรงดึงดูดสำคัญคือเป็นจุดตัดรถไฟฟ้าสายสีเหลือง สำโรง-ลาดพร้าว ที่สถานีสำโรง และมีศูนย์การค้าบางกอก มอลล์ ของเดอะมอลล์ กรุ๊ป เตรียมเปิดให้บริการบริเวณหัวมุมแยกบางนาภายใน ปี 2561 รวมถึงการก่อสร้างรถไฟฟ้ามีความคืบหน้า 72% เร็วกว่ากำหนด จึงดึงดูดให้ผู้ประกอบการเข้ามาลงทุนในทำเลอย่างคึกคัก ส่งผลให้ปี 2558 ผู้ประกอบการแข่งขันกันเปิดตัวโครงการใหม่ จนทำให้จำนวนหน่วยในภาพรวมสูงกว่าแชมป์ 3 สมัย อย่างสายสีม่วงช่วงบางซื่อ-สะพานพระนั่งเกล้า

"อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าปัญหาโอเวอร์ซัพพลายสายสีม่วงจะน่ากังวลมากกว่า เพราะคาดว่าปีนี้ผู้ประกอบการแข่งขันพัฒนา โครงการเติมซัพพลายในทำเลนี้อีกจำนวนมาก ในขณะที่ดีมานด์ของผู้ซื้อจะขยับ ออกไปหลังบริเวณสะพานพระนั่งเกล้า จนถึงปลายสายทางที่บางใหญ่ เนื่องจากมีราคาที่ผู้บริโภคสามารถซื้อได้ (Affordable Price)"

นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปีที่ผ่านมามีซัพพลายใหม่เพิ่มเข้ามาในทำเลแบริ่ง- สมุทรปราการมาก เพราะมีดีเวลอปเปอร์ขึ้นโครงการใหญ่พร้อมกัน 3 แห่ง รวมกว่า 4,000 ยูนิต ยอมรับว่าทำให้การขายในทำเลนี้ชะลอลง คาดว่าปีนี้จะไม่มีการเปิดตัวโครงการใหญ่เพิ่มในช่วงตั้งแต่สถานีสำโรงถึง สถานีสมุทรปราการ ซึ่งมีซัพพลายมากแล้วและผู้ซื้อในทำเลมีจำกัด

ในส่วนของบริษัทปีนี้มีแผนเปิดตัวใหม่ 1 โครงการ คือ น็อตติ้ง ฮิลล์ สุขุมวิท- แพรกษา มูลค่า 1,500 ล้านบาท เป็นอาคารสูง 35 ชั้น 800-900 ยูนิต ห่างจากสถานี แพรกษา 700 เมตร ราคา 5 หมื่นบาท/ตร.ม. หรือเริ่มต้น 1.09 ล้านบาท/ยูนิต จับกลุ่มลูกค้าพนักงานในนิคมอุตสาหกรรมบางปู ซึ่งมีโรงงานใหญ่จำนวนมาก เช่น โรงงานผลิตรถยนต์โตโยต้า มีพนักงานไม่ต่ำกว่า 2 หมื่นคน เป็นต้น

"เราแบ่งตลาดทำเลนี้เป็น 2 ช่วง คือ ช่วงต้น สถานีแบริ่ง-สถานีสมุทรปราการ มีคอนโดฯ ขึ้นเยอะแล้ว กับช่วงปลายตั้งแต่สถานีศรีนครินทร์-สถานีเคหะสมุทรปราการ ซึ่งแทบไม่มีโครงการใกล้รถไฟฟ้าเลย คนทำงานในนิคมบางปูส่วนใหญ่จะพักอพาร์ตเมนต์หรือกู้ร่วมเพื่อซื้อทาวน์เฮาส์ บน ถ.แพรกษา ราคา 2 ล้านบาท จึงเห็นโอกาสแข่งขันได้ หากพัฒนาห้องชุดผ่อนเดือนละ 5,000 บาท ใกล้เคียงค่าเช่าหอพัก" นายพีระพงศ์กล่าว

นายวิทการ จันทวิมล รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานกลยุทธ์การตลาด บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า คอนโดฯแอสปาย เอราวัณ 1,576 ยูนิต ขณะนี้มียอดขาย 40% หลังเปิดขาย 6 เดือน ถือว่าไม่ได้ร้อนแรงเหมือนคอนโดฯกลางเมืองหรือสุขุมวิทช่วงต้น แต่มั่นใจว่าเป็นทำเลมีศักยภาพสูง เพราะเป็นรถไฟฟ้าที่มีเส้นทางตรงเข้าสู่ซีบีดีโดยไม่ต้องเปลี่ยนขบวน จึงเป็นที่น่าสนใจของลูกค้า

ส่วนแผนงานเอพีมีที่ดินเหลือด้านหน้าสำหรับพัฒนาโครงการเฟส 2 ได้ แต่ยังไม่เปิดตัวในเร็วๆนี้ เนื่องจากต้องการรอให้รถไฟฟ้าใกล้เปิดใช้บริการก่อน ตามแผนงานรถไฟฟ้าแบริ่ง-สมุทรปราการเปิดใช้ ปี 2563 เชื่อว่าจะทำให้ผู้ซื้อหลักปรับเปลี่ยนจากกลุ่มคนท้องถิ่น มาเป็นแบบผสมผสานโดยมีลูกค้าต่างถิ่นย้ายเข้าอยู่มากขึ้น เป็นแนวโน้มคล้ายกับช่วงอ่อนนุช-แบริ่งในปัจจุบัน

สำหรับ ทำเลแบริ่ง-สมุทรปราการ ยังไม่ทราบว่ามีดีเวลอปเปอร์รายใหญ่เข้าซื้อที่ดิน แต่อาจมีบริษัทท้องถิ่นนำที่ดินต้นทุนเดิมในมือมาพัฒนา ทำให้ได้เปรียบในการตั้งราคาขาย เพราะที่ดินใหม่ทำเลนี้ปรับตัวเพิ่มขึ้นปีละ 10-20% หากเปรียบเทียบการเปิดตัวโครงการใหม่ปีนี้กับแนวรถไฟฟ้าสายสีม่วง เชื่อว่าสายสีม่วงน่าจะกลับมาเปิดตัวมากกว่า เพราะเป็นปีที่เปิดใช้บริการ